130. อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง

วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2556

———–

“ถึงหากจะยกแผ่นดินทั้งหมดให้แก่คนอกตัญญูที่คอยจ้องจับผิด ก็หาได้ทำให้คนอกตัญญูยินดีด้วย”

                                                           ธัมมปทัฏฐกถาแปล, หน้า ๑๙๙

               ปลายปี 2556 วันคืนที่อากาศหนาวเหน็บ หนังสือที่ผมหยิบอ่านเป็นประจำในห้วงเวลานี้ นอกจากแนววิชาการแล้วนั่นคือ “หนังสือธรรมะ”

โดยเฉพาะเรื่องราว “ความอกตัญญู” เป็นประเด็นที่ผมสนใจศึกษาค้นคว้าเป็นพิเศษ

ธรรมะ เป็นเรื่อง “นามธรรม” แต่บุคคลที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน เป็น “รูปธรรม” ทีผมสนใจศึกษาชีวิตและธรรมะ ยังคงเป็นบุรพกษัตริย์ไทยในอดีต

โดยเฉพาะเรื่องราวของ “มหาราช” แต่ละพระองค์ ซึ่งล้วนประสบพบพานชะตากรรมกับคนรอบตัวที่ “อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง”

คนเหล่านี้ ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก ดีต่อหน้า ด่าว่านินทาใส่ร้ายป้ายสีเสียดสีลับหลัง  จ้องจับผิด หาเรื่องเดือดร้อนวุ่นวายตลอดเวลา

เป็นเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องราวที่ “มอญ” หักหลังหลอกลวง “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” จนเกือบถูกลอบปลงพระชนม์

โชคดีที่ “คุณพระช่วย” ได้พระมหาเถรคันฉ่อง ช่วยเหลือเอาไว้ ให้ตาสว่าง รู้เช่นเห็นชาติ รู้ซึ้งถึงภัยจากคน “ใกล้ตัว” คน “ใกล้ชิด” ที่น่ากลัวที่สุด

น่ากลัวยิ่งกว่าคนที่ “ไกลตัว” ห่างไกล ซึ่งไม่เป็นโทษเป็นภัยร้ายแรงเช่นคนใกล้ตัว

เรื่องราวของ “พระเจ้าตากสินมหาราช” ที่ถูกพระยาสรรค์ และคนอื่นๆ โป้ปดมดเท็จ มุสาหลอกลวง ก็เป็นเรื่องราวน่าสนใจ

โดยเฉพาะเรื่องราวของ “พันศรี” และ “พันลา” ที่ทำโครงการ “จำนำข้าว” จนชาวนานแถบกรุงธนบุรีและภาคกลางเดือดร้อนกันถ้วนทั่ว

ด้วยโครงการ “รับจำนำข้าว” ชักเปอร์เซ็นต์ ชักดาบ อันลือลั่น จนเป็นเหตุให้ “พระยาสรรค์” และสมัครพรรคพวก ยกขึ้นเป็นสาเหตุ “ก่อกบฏ”

เป็นเรื่องเดือดร้อนทาง “เศรษฐกิจ” ยุคสมัยที่ “ข้าวยาก หมากแพง” ซึ่งปัญหาทางเศรษฐกิจสมัยกรุงธนบุรี เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าก็เป็นประเด็นน่าสนใจ

พอๆ กับ ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง “กลุ่มอำมาตย์” กับ “กลุ่มอำนาจใหม่” และ “กลุ่มราชวงศ์อยุธยา” ๓ อำนาจที่ปะทะขัดแย้งกันก็เป็นเรื่องที่ผมสนใจ

เพราะสามารถเชื่อมโยงและชี้ให้เห็นว่า การแก่งแย่งขัดแย้งชิงดีชิงเด่น “อำนาจ” ของขั้วต่างๆ ก็ยังมีมาจนถึงปัจจุบัน

แต่เรื่องราวของคน “อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง” น่าสนใจมากกว่า

น่าสนใจพอๆ กับที่ในยามยากของ “เจ้าตาก” ก็มีคนซื่อสัตย์ รับใช้ใกล้ชิดดูแลปกปักรักษาห่วงใย “เจ้าตาก” ไม่ยอมเป็น “ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย”

ไม่ยอมอกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง “เจ้าตาก” ดังเช่น “พระยาพิชัยดาบหัก”  นี่ก็เป็นเรื่่องน่าสนใจว่า คนดี คนซื่อ คนที่ยึดถือสัจวาจา

คนที่กตัญญู รู้คุณ สำนึก ซาบซึ้งในข้าวแดง แกงร้อน ถิ่นเคยอยู่ อู่เคยนอน หมอนเคยหนุน คุณเคยทำ อย่าง “พระยาพิชัยดาบหัก” ก็ยังมีหลงเหลืออยู่

เป็นแง่คิด เป็นสัจธรรมชีวิตว่า “ในหมู่คนดี ก็มีคนไม่ดีปะปนกัน ในหมู่คนอกตัญญู ก็มีคนกตัญญู ซื่อสัตย์ ไม่ทำร้ายผู้มีพระคุณปะปนอยู่” เช่นเดียวกัน

เรื่องราวบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ที่ผม “สนใจ” ศึกษา “ตำนาน” “ความลับ” “ความหลัง” อันเจ็บปวด ในอดีต

ยังคงเป็นเรื่องราวของ “สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี” หรือ “พระเจ้าตากสินมหาราช”

ผมได้ใช้เวลา, ทุนทรัพย์, พลังความคิด สติปัญญา และความสามารถที่มีจำกัด เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พยานวัตถุ พยานเอกสารสำคัญเกี่ยวกับมหาราชองค์นี้

สรุปได้ในเบื้องต้นว่า ปลายรัชสมัย การที่พระองค์ต้องประสบสภาวะสูญเสีย สูญสิ้นทุกอย่าง เป็นเพราะสาเหตุสำคัญเกิดจากคนรอบตัว

โลภโมโทสัน มักใหญ่ใฝ่สูง มักมาก กระหาย ใคร่จะได้มาซึ่ง “อำนาจ” และ “เงินตรา” โดยไม่สนใจคุณธรรมน้ำมิตร และความผูกพันที่มีมาด้วยความเมตตา

“อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง”  คือคำสำคัญที่ผมค้นพบประเด็นที่จะนำไปสู่การ “วิจัย” เพื่อค้นหาสาเหตุการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจจากบัลลังก์ “เจ้าตาก”

โดยได้พยายามเปรียบเทียบเรื่องราวของบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงสมัยปัจจุบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เพื่อค้นหา “ปัจจัย” ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของบุคคล องค์การ สังคม และเศรษฐกิจ

คำซ้ำๆ ที่ปรากฏถี่ๆ คือ “อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง”

ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวของ “เจ้าตาก”  ผมอยากปูพื้นเล่าไปในอดีตสมัยพุทธกาล ซึ่งเคยมีตำนานลูกฆ่าพ่อเพราะต้องการ “อำนาจ”

เรื่องราวของ “วงศาคณาญาติ” คือพระเทวทัตที่พยายามช่วงชิงอำนาจการปกครองสงฆ์ในอดีต ก็เป็นเรื่องน่าสนใจ

เรื่องราวคนอกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง ที่โด่งดังในสมัยพุทธกาลคือเรื่องราวของ “พระเทวทัต”

ไม่มีใครไม่รู้จักพระเทวทัต เพราะเป็นผู้ที่มี “โทษสมบัติ” ครบถ้วนทั้ง 4 ข้อ อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง

เริ่มตั้งแต่วางแผนหลอก “พระเจ้าอชาตศัตรู” ให้ศรัทธา เลื่อมใสและให้ “ฆ่า” พ่อตนเองคือพระเจ้าพิมพิสารเพียงเพื่อ “อำนาจและเงินตรา”

จากนั้นก็วางแผนส่ง “นักแม่นธนู” ลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า พอไม่สำเร็จก็กลิ้งหินลงจากเขาคิชฌกูฏ และยังได้ปล่อยช้างนาฬาคีรีเพื่อให้พระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์ให้จงได้

นอกจากนี้ยังได้ยุยงให้พระสงฆ์แตกแยกกัน โดยชี้และโน้มน้าวให้พระสงฆ์เชื่อว่าพระที่อยู่ในป่า เที่ยวบิณฑบาต ห่มผ้าคลุกฝุ่น อยู่โคนต้นไม้ และฉันมังสวิรัติคือพระแท้ ที่เหลือคือพระเทียม

สุดท้าย เสวยกรรมตนเอง ผู้คนเสื่อมศรัทธา ถูกแผ่นดินสูบ จมธรณีไป ในท้ายที่สุด

อีกเรื่องราวที่น่าสนใจคือ “พระองคุลีมาล”  ตามประวัติได้ไปร่ำไปเรียนที่ตักศิลากับอาจารย์ทิศาปาโมกข์แต่เพื่อนๆ ริษยา ใส่ร้ายว่าเป็นชู้กับภรรยาของอาจารย์

ฝ่ายอาจารย์หลงเชื่อก็เลยหาทางกำจัดด้วยการหลอกลวงว่าจะให้เรียนวิชาวิษณุ มนต์ ซึ่งจะดลบันดาลให้สำเร็จประโยชน์ทุกสิ่งที่ปรารถนา แต่ต้องตัดนิ้วคนจำนวนพันคนเพื่อบูชาครู

ด้วยหลงเชื่ออาจารย์ชั่วช้าก็เลยถูกหลอกให้ฆ่าคนถึง 999 คนเหลือคนสุดท้ายคือ “แม่” เกือบจะฆ่าแม่ตัวเองแล้วดีที่พระพุทธเจ้าช่วยไว้ทัน ก็เลยได้ออกบวช

กว่าจะเป็นพระอรหันต์ได้ก็แทบแย่ เพราะจิตฟุ้งซ่านเห็นแต่ใบหน้าของเจ้ากรรมนายเวรที่ตนฆ่าล่องลอยวนเวียนอยู่ ตรงหน้า แต่ด้วยความตั้งใจพากเพียรพยายามก็บรรลุอรหัตผลได้ในท้ายที่สุด

กลยุทธ์สำหรับชัยชนะ สรุปจากเรื่องราวธรรมะทั้ง 2  กรณีศึกษาได้ดังนี้

กลยุทธ์แรก สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ทำได้ยาก แต่สิ่งที่ไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์ทำได้ง่าย อยากสำเร็จก็ต้องทำในสิ่งที่ดีสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เช่น อยากรวย ก็ต้องเรียนรู้ตัวเลข วิชาบัญชี การเงิน การวางแผนการผลิต อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน

กลยุทธ์ที่ 2 อย่าเชื่อคนง่าย คนที่กลายเป็นคนอกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นคนหูเบา เชื่อคนง่าย ไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องใช้เหตุผลให้มาก ต้องหนักแน่น อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน แม้คนๆ นั้นจะเป็นครูบาอาจารย์ของเรา ต้องเชื่อคนที่ชักชวนไปในทางที่ถูก

กลยุทธ์ที่ 3 อย่ามักใหญ่ใฝ่สูง และอย่าทำตัวให้คนหมั่นไส้ คนที่ทะเยอทะยาน อยากได้ใคร่ดีอยากมีอยากเป็นจนเกินพอดี กับคนที่ชอบทำตัวเวอร์ๆ หรือทำดีจนเด่นขึ้นทุกที คนรอบข้างรอบตัวก็จะอิจฉาริษยา จะหาทางเลื่อยขา และมีโอกาสสูงที่จะไปเหยียบตาปลาผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า คนที่อกตัญญู เนรคุณ ทรยศ หักหลัง ส่วนใหญ่เป็นคนที่ละโมบโลภมาก มักใหญ่ใฝ่สูง อยากได้ใคร่ดี อยากมี อยากเป็นจนเกินพอดี

ท้ายนี้ ฝากไว้เป็นแง่คิดว่า “ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายคนดี” อยากรวย อยากเจริญรุ่งเรือง อยากสำเร็จ ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ กตัญูญู รู้คุณ ตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด พ่อแม่ ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณครับ 

——————————————

Comments

comments