217. แรงอธิษฐาน กว่าร้าน 7-11 จะเปิดได้ครบ 10,000 สาขา

217. แรงอธิษฐาน
กว่าร้าน 7-11 จะเปิดได้ครบ 10,000  สาขา 

คอลัมน์   How to Heng 
6 ธันวาคม 2560

 “การบริการวิชาการสู่สังคมเป็นวิทยาทาน”

โดย

ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ
ผู้อำนวยการโครงการปริญญาเอก ทวิปริญญา
Ph.D.  &  D.B.A. in Business Administration Program
Charisma University, Providenciales, TC
and Apollos University, Great Falls, Montana, USA

 

 

เพื่อนๆ นักขายครับ วันนี้จะนำเสนอ “ทฤษฎีเฮง” ในหัวข้อ “แรงอธิษฐาน”
เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นตัวอย่างที่น่าศึกษา กรณีที่ใช้เวลานานถึง 30 ปี กว่าจะเปิดร้านและ

ขยายสาขาร้าน 7-11 ได้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะท่านเจ้าสัว มีแรงอธิษฐานที่มุ่งมั่นและชัดเจน !

หนังสือ “กว่าจะถึง 10,000 สาขา บันทึกวันเวลา 30 ปี ที่ยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทย” จัดพิมพ์โดย CPALL ให้ข้อคิดเรื่อง “แรงอธิษฐาน” ไว้ น่าสนใจ

เดิมกลุ่มจาร์ดีน ฮ่องกง เป็นผู้รับมอบสัญญาบริหาร “ธุรกิจแฟรนไชส์ร้าน 7-11” แต่กลุ่มจาร์ดีนปฏิเสธไม่รับทำธุรกิจนี้ในประเทศไทย

ท่านเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ศึกษาวิจัยเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุด 7 พฤศจิกายน 2531 ก็ตัดสินใจขอซื้อสิทธิในการบริหารร้าน 7-11 ทั้งหมดแทนกลุ่มจาร์ดีน

1 มิถุนายน 2532 ซีพีสามารถเปิดสาขาแรกได้ที่ถนนสีลม และปลายปี 2533 ก็ขยายสาขาได้ถึง 27 สาขา แต่ทว่าปัญหาที่ซีพีพบคือสภาวะเจ๊ง เจ็บ จน ยอดขายเฉลี่ยร้านเซเว่นต่ำมาก ไม่พอกับค่าใช้จ่าย สต็อคคงค้างจำนวนมาก กว่าจะระบายออกได้ ใช้เวลาเป็นเดือน ร้านที่ขาดทุนมีมากกว่าร้านที่กำไร แรกก่อตั้ง ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่ขาดทุนสะสมเดือนละ 50 ล้านบาท

ผู้บริหารระดับสูงของเครือซีพี มองว่า สมควรปิดกิจการ เพราะซีพี เติบโตมาจากสินค้าเกษตรกรรม ชำนาญการในการผลิต การทำร้านโชวห่วยขายสินค้าเล็กๆ น้อยๆ กระจุกกระจิก กำไรน้อย ลงทุนแล้วไม่คุ้ม แต่เจ้าสัวธนินท์ มีแรงอธิษฐานและมีวิสัยทัศน์ว่า อนาคตร้าน 7-11 จะประสบความสำเร็จในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่สำเร็จในญี่ปุ่น และฮ่องกง จึงเป็นเสียงเดียวที่คัดค้าน และกัดฟันยืนหยัดลงทุนต่อ และสู้ต่อไป ต่อมาได้ติดต่อคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกหม้อทำงานให้ซีพีตั้งแต่ปี 2516 และทีมงานมาช่วยกันคิด ช่วยกันบริหาร ช่วยกันสานต่อ ทีมบริหารชุดแรกก็ลาออกไป สัญญาที่ซีพีทำไว้กับเซเว่นที่อเมริกา ต้องขยายสาขาให้ได้ 150 สาขา ในปี 2540 วิกฤตต้มยำกุ้ง แต่ทว่าคุณก่อศักดิ์ ก็คิด ฝัน หวัง และทำจินตนาการให้แรงอธิษฐานของเจ้าสัวธนินท์เป็นจริงได้ 150 สาขา ตั้งแต่ปี 2535 ก่อนหน้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 5 ปี !

การที่ร้านเซเว่นยืนหยัดได้ถึงทุกวันนี้ เพราะตอบโจทย์ยากซึ่งเป็นปัญหาสาหัสสากรรจ์ของร้านโชวห่วยขายของจุกจิกเช่นนี้ได้ใน 2 ปัญหายาก ปัญหาข้อแรกจากการวิจัยโดยเก็บข้อมูลคือมีสินค้าหายทุกเดือน ร้อยละ 2.5% อีกปัญหาที่พบคือพนักงานลาออก 15% ต่อเดือน ทำให้งานติดๆ ขัดๆ สะดุด ไม่ราบรื่น ต้องหาพนักงานใหม่ที่ไม่รู้งานเข้ามาเติมตลอดเวลา พอฝึกคล่องตัว เป็นงาน ก็ลาออกไป ร้านเซเว่นต้องหาคนมาทำแทนตลอด เมื่อวิเคราะห์วิจัยเชิงลึก ก็ได้ข้อค้นพบว่า พนักงานร้านส่วนมากอายุ 16-18 ปี ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจน ขาดโอกาสที่จะศึกษาต่อ พวกเขาจึงไม่มีความคิด ความฝัน ความหวัง และจินตนาการ อยู่อย่างไร้จุดยืน ขาดเป้าหมาย แรงบันดาลใจ อนาคตมืดมน เมื่อคิดสั้น ก็ลักขโมยสินค้าทางร้านไปขายแก้ขัด เมื่อเพื่อนชักชวนลาออกไปทำงานที่อื่น ก็เฮโลตามกันไป ไม่ได้คิดเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

ทางคุณก่อศักดิ์และทีม จึงปรับเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการเอา “การศึกษา” เป็นพลังขับเคลื่อน เป็นเครื่องมือสนับสนุนให้พวกเขามีอนาคต ติดต่อกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ถึงปี 2536 สถิติของหาย ลดเหลือเพียงแค่ ร้อยละ 0.3% และผลจากความอุตสาหะ เด็กปวช. ที่มุมานะเรียนต่อ ก็ได้ตำแหน่งผู้จัดการร้าน รายได้เพิ่ม 300% จากเด็กจบ ปวช. ใหม่ๆ หรือรองลงมาเป็นหัวหน้าผลัด ก็มีรายได้ 200%

การที่พวกเขาเรียนไปทำงานไป มีผลทำให้สถิติการลาออก ลดเหลือเพียงแค่ร้อยละ 5%  เมื่อมีคนทำงานประจำ ก็มีผลทำให้เกิดคุณภาพงานดีกว่าเดิม งานก็เดิน ไม่สะดุด พนักงานสามารถจดจำลูกค้าที่มาซื้อประจำ สร้างความประทับใจ เกิดการซื้อซ้ำ บอกต่อ จนเป็นที่ประทับใจ และเติบใหญ่ได้ถึงปัจจุบัน

แน่นอนว่า กว่ากิจการร้านเซเว่น จะเติบใหญ่ได้ถึง 10,000 สาขา ความสำเร็จไม่มีปาฏิหาริย์ ต้องเชื่อมั่นในแรงอธิษฐาน และวิสัยทัศน์ที่มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ต้องจับและกำหนดประเด็นปัญหาใหญ่ที่เป็นหลุมเป็นบ่อเป็นอุปสรรคขวากหนามขัดขวางถนนสายที่นำไปสู่ความสำเร็จ ความไม่ประมาทให้เครือเซเว่นก้าวล่วงพ้นเอาชนะอุปสรรคมาได้  และมีวันนี้ได้โดยแคล้วคลาดปลอดภัยคล่องตัวทุกประการ

ปี 2560 เป็นปีสำคัญของ CPALL เพราะเป็นปีแรกในรอบ 30 ปีที่สามารถขยายสาขาได้ครบ 10,000 สาขาทั่วประเทศ ความสำเร็จที่บังเกิด เกิดจาก “แรงอธิษฐาน” และการมีทีมงานที่มีคุณวุฒิ คุณภาพ และคุณธรรม เบื้องหลังความสำเร็จ มีทั้งหยาดเหงื่อ แรงงาน หยาดเลือด หยดน้ำตา คละเคล้ากับเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน เมื่อเงินสดไหลเข้าร้าน เงินเดินสะพัดทุกวัน  พนักงานมีเงินแต่ละคนก็มีหน้าตาสดใส อยู่และทำงานกันอย่างมีอนาคตและมีความหวัง

เพื่อนๆ นักขายครับ “เอาเยี่ยงกา อย่าเอาอย่างกา” โบราณว่าไว้ น่าคิด กรณีศึกษา “แรงอธิษฐาน” ที่เป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของท่านประธานธนินท์ เจียรวนนท์ และคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ และคณะ เป็นเรื่องราวที่สมควรนำมาปรับใช้เพื่อให้เกิดความสำเร็จ นั่นคือต้องทุ่มสุดตัว แน่วแน่ ไม่วอกแวก ต้องแก้ปัญหาโจทย์ยากที่สุดของธุรกิจที่เลือกจะทำ และสำคัญต้องทำบุญ ทำทาน เสริมดวง เสริมบารมีด้วย!

Comments

comments