๒๖๑. ข้ออรรถ ข้อธรรม “คำสอนหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี”

๑๖.๔.๒๕๖๗
ข้ออรรถ ข้อธรรม

“คำสอนหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี”

อุทิส ศิริวรรณ

เขียน


————————

บันทึกจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
ทรงแต่ง ถวายหลวงปู่โต๊ะ
ในหนังสืออนุสรณ์หลวงปู่โต๊ะ
แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ
เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๒๔
เมื่อ ๔๓ ปีก่อน

น่าสนใจ

——–

ผมอ่านแล้วประทับใจ เลยนำมาเล่าต่อ

สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงบันทึกไว้น่าสนใจหลายตอน
ยกตัวอย่าง

…ลูกศิษย์ใกล้ชิดเล่าว่า

“ปกติวันๆ มีคนไปกราบท่านมาก
แทบว่าจะไม่มีเวลาจำวัด
แต่หลวงปู่ท่านเมตตาล้นเหลือ
ใครมีทุกข์มุ่งมาหาท่าน
ต้องได้รับกระแสเมตตาจากท่านถ้วนหน้า”
พวกเราทั้งหลายที่ยังมีกิเลสหนาแน่น
ยึดรูปกายของหลวงปู่
และรบกวนท่านอยู่ตลอดเวลา

ต่างคนต่างมุ่ง
นึกถึงเรื่องของตัวเองทั้งนั้น

เจ้าพระคุณหลวงปู่
ยอมผ่อนผันให้กับคนทุกประเภท
ท่านมุ่งให้ทุกคนมีจิตเบิกบานขึ้น
ตามวาระของเขาเหล่านั้น
เท่าที่จะพึงทำได้

ใครอยากได้ธรรมะขั้นสูงสุด ท่านก็ให้
ใครอยากได้โชคลาภ ขอน้ำมนต์
ขอพระจากท่าน ท่านก็ให้

แต่ท่านจะต้องเน้นให้ระลึกถึง
คุณพระรัตนตรัยอยู่เสมอ
ไม่ให้ก่อความชั่วเพิ่มขึ้น

อยู่ใกล้หลวงปู่เข้า
รู้สึกว่า

“ไม่มีศัตรูอาฆาตเสียเลย
มีแต่คนที่เขารู้เท่าไม่ถึงการณ์
น่าสงสารเขาทั้งนั้น
ถ้าเขาเหล่านั้นเกิดปัญญาขึ้นแล้ว
ก็จะไม่กระทำเช่นนั้นดอก
อภัยให้เขาเถิด”

ถ้าแม้มีทุกข์โศกซึ่งไปกราบหลวงปู่
ท่านก็ว่า

“ความทุกข์โศกทั้งหลาย เป็นของเก่าแก่
หลายร้อยหมื่นพันปี เป็นเรื่องของโลกเขา
เรื่องทุกข์โศกเศร้าเสียใจนี่นะ แต่มีทางแก้”

พระพุทธเจ้าของเรา
ท่านพบทางพ้นทุกข์แล้ว
และด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
ต่อมวลสัตว์โลกทั้งหลาย
จึงได้ทรงประดิษฐานพระบวรพุทธศาสนาขึ้นในโลกนี้
เพื่อให้พวกเราทั้งหลายได้มีโอกาสอยู่ในโลกนี้
ด้วยความทุกข์ทรมานที่น้อยที่สุด

อยู่อย่างนี้
ผู้ที่รู้จักเข้าใจเรื่องราวของโลกนี้ดี
ไม่ประมาท ลุ่มหลง มัวเมา
จนพาตตนไปสู่ความวิบัติ

ในคราวที่เครื่องบิน บ.ด.ท.* ตก
*บริษัทเดินอากาศไทย จำกัด ภายหลังคือ การบินไทย

และ ท่านอาจารย์วัน และพระอริยเจ้า
ผู้ร่วมเดินทางมากรุงเทพฯ พร้อมกันหลายองค์
มรณภาพหมด

ข้าพเจ้ามีความทุกข์โศกมาก
กราบเรียนหลวงปู่ว่า

“รู้แล้วว่าคนเรานั้นตายเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้น แต่กลับคิดไปว่า
พระอริยเจ้าทั้งหลายนั้น ท่านปฏิบัติแต่กรรมดีเท่านั้น
เลยมิได้คิดว่าพระอริยเจ้าท่านจะต้องมาประสบอุบัติเหตุเช่นนี้”

 

หลวงปู่กล่าวว่า
” โลกนี้เขาเป็นของเขาอย่างนี้แหละ
ไม่มีอะไรที่ยึดถือได้ว่าแน่นอน
ถ้าคนเรามีศรัทธาว่า
พระพุทธองค์ท่านหยั่งรู้ซึ้งโลกนี้เป็นอยา่งดี
ด้วยพระปัญญาคุณของพระองค์ท่านเอง
พระพุทธองค์ทรงเมตตาสัตว์โลก
ว่าวนเวียนอยู่ในความทุกข์ทรมานไม่มีที่สิ้นสุด”

พระพุทธองค์ ได้ทรงพบ
ทางพ้นความทุกข์โดยสิ้นเชิงแล้ว
ด้วยพระปัญญาคุณ
ทรงพระเมตตาบอก
ทางพ้นความทุกข์ให้แก่ทุกๆ คน
จะไปหาที่ไหนอีกล่ะ
ผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วย
ความเมตตาอันบริสุทธิ์ต่อมวลมนุษย์
เจ้าพระคุณหลวงปู่สอนข้าพเจ้าเช่นนี้

หลวงปู่หยั่งความได้ว่า
“สำหรับข้าพเจ้านั้น
พระพุทธองค์คือ
องค์พระประทีปแก้วของสัตว์โลกทั้งปวง”

และข้าพเจ้านั้น มีบุญเหลือหลาย
ที่ได้ฟังพระธรรมจากพระอริยสาวก
ของพระบรมโลกนาถเจ้าเอง

 

 

Comments

comments