86. ทฤษฎีเฮงของพระเจ้าตากสินมหาราช

 

เปิดจิต ปิดจิต

ทฤษฎีเฮงของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
พระเจ้าตากสินมหาราช
งานบริการวิชาการสังคม

โดย

ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ

ประธานบริหารโครงการปริญญาเอกแบบเน้นวิจัย

 

 

 

 

พิมพ์ครั้งแรก

 

นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 8 ฉบับที่ 201 ปักษ์แรก

ประจำวันที่ 1- 15 เมษายน 2554

 

พิมพ์ครั้งที่ ๒

http://www.sumret.com/content.php?id=2795&group_id=16

 

พิมพ์ครั้งที่ ๓  ที่ www.druthti.com

 

เปิดจิต ปิดจิต : ทำแล้วเฮง 100%

เพื่อนๆ นักขายครับ ฮาวทูเฮงฉบับนี้ ขอนำเสนอศาสตร์ความเฮงตอน “เปิดจิต ปิดจิต”การเปิดจิตปิดจิตเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์ความเฮง?

 

ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์ จะพบว่าในสมัยอยุธยาตอนปลาย

 

คนผู้หนึ่งนิยม “เปิดจิตปิดจิต” เสมอ คือ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ตอนตีเมืองจันทร์แตก

 

พระองค์เปิดจิตนักรบทุกคนว่า

 

ต้องรบให้ชนะ

 

ต้องตีแหกวงล้อมเข้าเมืองจันทร์ให้จงได้

 

เปิดจิตว่า

 

ต้องกินข้าวมื้อต่อไปในเมืองจันทร์

 

และก็ทำได้จนสำเร็จ
 
คนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนเชื่อกันมานมนานแล้วว่า

 

การที่คนผู้หนึ่ง จะได้เป็นใหญ่เป็นโต

 

จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน มีแววออกก่อนเป็นใหญ่

 

สิ่งนี้แต่โบราณเรียกว่า “โหงวเฮ้ง” หรือ “ราศีจับ” ต้องมีรัศมีที่ “ผุดผ่อง”

 

เข้าใกล้แล้ว  ภาษาร่วมสมัย เรียกว่า “แสงออร่า” ออก

 

เปล่งประกายระยิบระยับ
 
ศาสตร์ความเฮง สัมพันธ์กับการเปิดจิต ปิดจิต คนเราต้องเปิดใจให้กว้าง เปิดความคิดให้กว้าง เปิดโลกทัศน์ให้กว้าง ต้องศรัทธา ต้องมั่นใจ ต้องเชื่อมั่นว่า อะไรก็เป็นไปได้ อะไรก็มีได้ทั้งนั้น ถ้าเปิดใจรับบุญ

เมื่อเปิดจิต เปิดใจแล้ว

ก็ต้อง   ปิดจิต (อ่านว่า ปิด–จิต)

 

ปิดใจ (อ่านว่า ปิด—ใจ)

 

ทุกวันด้วย

 

 

เพราะความสำเร็จ หรือความเฮง จะเกิดขึ้นได้เฉพาะกับคนที่กล้า “เปิดใจ” ซึ่งผมขอเรียกว่า “เปิดจิต”

คนจะเฮง ต้องเปิดใจให้กับ “บุญ”

 

ซึ่งก็คือ “รวย”

 

คนจะรวยได้เพราะศีล เพราะทานเท่านั้น

 

จำไว้!!!

คนเรา ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ยากดีมีจนไม่สำคัญ ใหญ่โตแค่ไหน ไม่เกี่ยว

 

ถ้าคุณอยาก “เฮง” อยาก “รวย” อยากประสบความ “สำเร็จ”

 

ในเบื้องต้น คุณต้องศรัทธาแน่วแน่ในศาสตร์แห่งความเฮง

ศาสตร์แห่งความร่ำรวย

เรียกกันมาแต่โบราณ

สิ่งที่ว่า นั่นก็คือบุญ

 

คุณจะต้องเปิดจิต เปิดความคิด เปิดใจ พูดเรื่องบุญ ต้องหมั่นทำบุญ

ต้องรักษาศีล

และเจริญสมาธิภาวนา

ด้วยการสวดมนต์

หรือการนั่งสมาธิ

แล้วแต่จะสะดวก

แล้วแต่ลำดับขั้น

ขั้นแรกก็หมั่น “ทำทาน” เริ่มจาก “ให้”

ให้ความคิด ให้กำลังใจ ให้เงิน ให้อาหาร ให้ที่อยู่ ให้อาศัย ให้พึ่งพา

ให้ยศ ให้ตำแหน่ง ให้เกียรติ ให้ความเคารพ ให้ความจริงใจ ให้ชีวิตใหม่

ให้โอกาส ให้อภัย เปิดทางให้เดิน ให้ความช่วยเหลือ ให้กินอิ่ม ให้นอนอุ่น

ให้เสียงหัวเราะ ให้ความบันเทิง ให้ความสนุกสนาน ให้ความเอร็ดอร่อย

จะเห็นว่า “ให้” ไม่จำเป็นต้องให้ “เงิน” ให้อย่างอื่นก็ “ได้บุญ” เหมือนกัน

ควบคู่กันไปคือรักษาศีล

เริ่มจาก ศีล ๕ จนถึงศีล ๘

ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน

ไม่ลัก ไม่ยักยอก ไม่ฉ้อ ไม่ฉล ไม่คด ไม่โกงใคร

ไม่เป็นชู้ ไม่แย่งของใคร

ไม่โกหก ไม่พูดเท็จ ไม่พูดปด ไม่พูดคำหยาบ ไม่เพ้อเจ้อ ไม่โอ้ ไม่อวด ไม่อ้าง

ไม่ดื่มเหล้า เมายา สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร การพนันต่างๆ

ถ้าศีล ๘ ก็เพิ่มอีก ๓ ข้อ

-ไม่กินข้าวหลังมื้อเที่ยง

-ไม่ร้องรำทำเพลง ดูหนังฟังเพลง ใส่น้ำอบ น้ำหอม ทำให้เกิดกิเลส

-ไม่นอนที่นอนสูง ใหญ่โต มโหฬาร นอนพอเหมาะ พอควร พอประมาณ

 

 

 

จากนั้นภาวนา

จนเกิดดวง “ปัญญา” ปิ๊งแวบ คิดแล้วคลิก ครบครันทั้ง

 

สุตมยปัญญา  ฟังแล้วเฮง ฟังแล้วฉลาด ฟังแล้วเก็บไปคิด เก็บไปทำจนรวย

จินตามยปัญญา คิด คิดแล้วเฮง คิดจนคลิก คิดแล้วแตกต่าง คิดจนค้นพบแนวทางรวย

ภาวนามยปัญญา คือ ทบทวน หมั่นพิจารณา ตริตรอง ไตร่ตรอง ไต่สวน สอบสวน

คิดทบทวนไปมา จนค้นพบแนวทางแก้ปัญหา ตั้งแต่ตั้งโจทย์ปัญหา ตั้งเป้าหมาย

ตั้งวัตถุประสงค์ ทำการทดสอบ ทำการทดลอง พูดคุย สนทนา สอบถาม

จนได้คำตอบ ได้ผลลัพธ์ที่วิเคราะห์ กลั่นกรอง อภิปราย

จนได้ผลนำมาเป็นข้อเสนอแนะ ข้อคิด นำไปทำจนร่ำรวย

 

ด้วยหลัก “ทาน-ศีล-ภาวนา” ไม่จำเป็นต้องใช้ “เงิน” มากมาย

ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง หมดเนื้อหมดตัว

เงินแม้จะสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ “เฮง” และ “รวย”

เงินคือ “เครื่องมือ” ชนิดหนึ่งที่ทำให้ “สะดวก” และ “รวดเร็ว”

เงินทำไม่ได้ทุกอย่างในชีวิต แต่เป็นแค่หนึ่งในปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ

 

จำไว้ว่า จะได้บุญมาก ไม่ต้องมี “เงิน” มาก

เดี๋ยวจะตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกให้ทำบุญด้วย “เงิน” ด้วย “ทรัพย์”

 

ผมอ่านตำรามามาก และค้นพบว่าในพระไตรปิฎก
ไม่มีคำสอนใดๆ บ่งชี้ว่า ต้องใช้ “เงิน” ต่อบุญ
จะทำบุญให้ได้บุญ ต้องเริ่มต้นที่ “ใจ” บวก “กาย”
ประสานพลัง “ความศรัทธา” ก่อนทำ กำลังทำ หลังทำ
กำหนด “จิต” ให้แน่วแน่

 

ศรัทธาไม่วอกแวก

 

ก่อนทำบุญ-กำลังทำบุญ-หลังทำบุญ

ไม่เอ๊ะ ไม่อ๊ะ ไม่ลังเล ไม่สงสัย ช่วยใคร ทำอะไร

ทำแล้ว จบเลย ไม่ต้องเก็บมาคิดว่าเขาเอาไปทำอะไร

บุญอยู่ที่ “เรา” เมื่อ “ให้” แล้ว “จบ” แล้ว ก็ “สำเร็จ”

แก่ตัวเรา เราคิดดี ปลื้มใจ อิ่มอกอิ่มใจ เราก็ได้บุญ

ทำกับ “หมา” หรือ “แมว” ก็ยังได้บุญ ยิ่งทำกับพระ

สุปฏิปันโน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ยิ่ง “เฮง” ยิ่ง “รวย”

จะเห็นว่า ไปทำบุญกับพระ “ดี” ท่านเคร่ง จะไม่รับถวาย

 

“เงิน” เลย แต่ท่านไม่ปฏิเสธ ถ้าเช้าๆ จะนำอาหารมา

“ถวาย” ให้ท่านอิ่ม ๑ มื้อ

 

 

เข้าใจหลัก “เปิดจิต-ปิดจิต” ก็จะ “เฮง” และ “รวย”

 

อยากมีบุญ ใช้ “ตัว” ใช้ “ใจ” เข้าแลกด้วยการ

 

“เปิดจิต-ปิดจิต”

 

เมื่อเข้าใจหลัก “บุญ” ซึ่งคุณต้อง “เสียสละ”

ต้องกล้า “ให้” กล้าเปิดใจ กล้าเปิดความคิด กล้าปฏิบัติ

 

จะสำเร็จ จะเฮง จะรวย

ต้องนำสิ่งที่ ฟัง สิ่งที่คิด

และสิ่งที่ภาวนาทบทวนมาปฏิบัติ

จึงจะเฮง จึงจะรวย

 

คุณก็จะอยู่ในบุญ ใต้เงาบุญ บุญก็จะตาม

ปกปักรักษา คุ้มครองคุณ ให้ได้ดิบได้ดี

 

เรื่อยไป  ไม่มีวันเสื่อม ไม่มีวันตกต่ำ ไม่มี

วันเจ๊ง ไม่มีวันเจ็บ ไม่มีวันจน

การทำบุญทำทานก็มีผลต่อโหวงเฮ้ง การทำสมาธิ ถือศีลภาวนา ล้วนมีผลต่อ โหวงเฮ้งทั้งสิ้น
มีเงินน้อย ก็ถวายสังฆทาน ซื้ออาหารเครื่องดื่ม ทำบุญตักบาตรพระ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร

มีเงินระดับหนึ่ง ก็ปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปล่อยหอยขม ปล่อยนก เพื่อบำเพ็ญอภัยทาน อโหสิกรรม ปัดรังควานเสนียดจัญไรและเหตุเภทภัยร้ายแรง รุนแรงที่จะกล้ำกรายเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาทำร้ายเป็นอุปสรรคขัดข้องขวางทาง เดินสะดวกของชีวิต

เก็บหอมรอมริบได้เงินสักก้อน ก็แบ่งปันส่วนหนึ่งมาทอดกฐิน ผ้าป่า

ทำบุญใหญ่ ในแต่ละกองบุญที่เหมาะสมกับตัวเรา
อมีเงิน ไม่เดือดร้อน ก็นั่งสมาธิภาวนาบำเพ็ญเพียรทางจิตให้มากขึ้น เพื่อเสริมดวงชะตาให้ดีๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป ต้องหมั่นเติมดวงบุญ เพื่อรักษาสถานะทางการเงินและสังคมให้มั่นคงยิ่งขึ้นด้วยบุญต่อบุญ

สิทธิการิยะ ผู้ที่ต้องการความเฮง ท่านต้อง “เปิดจิต-ปิดจิต” โดย

จะต้องค้นหา เฟ้นหา เลือกเฟ้นคนทำงาน คนร่วมงาน คู่คิด คู่กาย คู่ใจ คู่ครอง คู่ค้า และลูกค้าที่มีบุคลิกลักษณะดี มีบุญ มีวาสนาดี มีการงานดี ซึ่งโดยข้อมูลพื้นฐานจะประกอบด้วยโหงวเฮ้งที่ดี ดังนี้

1. ผิวดี หมาย ถึงเงินดี ผิวพรรณเป็นประกายสดใส ไม่ว่าจะขาวหรือคล้ำหากมีเลือดฝาดที่บ่งบอกว่าสุขภาพดีโดยไม่ผ่านการตกแต่ง ด้วยเครื่องสำอาง จะเป็นคนที่มีเงินไม่ขาดมือ ดังนั้นต้องรู้จักดูแลผิวพรรณ รักษาสุขภาพจิตให้ดี ไม่นอนดึก หมั่นยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ

2. คิ้วสวย แปลว่าจะเป็นคนรักญาติมิตรพี่น้อง มักคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันเสมอ คิ้วที่มีความสมดุลกับดวงตายาวถึงหางตา นอกจากนี้ขนคิ้วที่เรียงกันเป็นแนวนอนอย่างเป็นระเบียบ ไร้ตำหนิจากแผลเป็นหรือขาดแหว่ง เจ้าตัวเป็นนักวางแผนที่ดี ทำงานเป็นระบบ และมีเสน่ห์มักได้รับความนิยมชมชอบจากคนรอบข้าง

3. ปลายคาง อธิบายว่าจะมีลูกน้องบริวารซื่อสัตย์เป็นคนดีไว้วางใจได้ ต้องมีลักษณะกลมมน อวบอิ่มได้รูปไม่สั้นหรือแหลมจนเกินไป หากคางแหลมจะได้บริวารที่ไม่จริงใจ และจะว้าเหว่ในบั้นปลายชีวิต

4. หน้าผาก แสดงถึงสติปัญญา หน้าผากที่กว้างอิ่มเต็มเท่ากับหนึ่งฝ่ามือของตัวเอง เป็นลักษณะของผู้ที่มีสติปัญญาดี หน้าผากมีความเกลี้ยงเกลา สดใส ไร้ตำหนิจากแผลแตก แผลเป็นหรือรอยยุบ แสดงว่าเป็นผู้สามารถพลิกแพลงแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีเยี่ยม ชอบศึกษาหาความรู้ ตำแหน่งอาชีพการงานพบกับความราบรื่นผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลืออุปถัมภ์

5. ปาก ที่มี ความกว้างมุมปากตรงกับตาดำเรียกว่าปากกิน 4 ทิศ เป็นผู้ที่พูดจาหนักแน่น น่าเชื่อถือ พูดแล้วไม่คืนคำและจะต้องทำให้ได้ มีผู้คอยให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์เสมอ หากใครที่ไม่มีคุณลักษณะดังกล่าวสามารถฝึกได้ด้วยการหัดเป็นคนพูดจาภาษา ดอกไม้

6. น้ำเสียง ถ้าเป็นผู้หญิงควรจะมีน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟังไม่ชวนทะเลาะหรือมีเสียงห้าว ส่วนผู้ชายจะต้องมีน้ำเสียงดัง ก้อง กังวาน สดใส ฟังได้ศัพท์ ไม่ใช่พูดในลำคอหรือพูดเสียงเบาเหมือนกระซิบสิ่งนี้จะแสดงถึงการไม่มีอำนาจ หรือถูกลิดรอนอำนาจ

7. ใจบุญ ให้สังเกตดูนิสัยการแสดงออกของคนรอบตัวเราว่าชอบทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นองค์ประกอบของบุญหรือไม่ อาทิเช่น จิตใจดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคน ชอบสวดมนต์ ชอบนั่งสมาธิภาวนาบำเพ็ญบุญ

ผู้อ่านทุกท่านครับ คนเราโหงวเฮ้งจะดี

แก้ไขได้ โดยต้องปรับเปลี่ยนนิสัย พฤติกรรม วิธีคิด วิธีพูด วิธีทำงาน

 

ท่านต้องเป็นคนคิดดี พูดจาดี หาสิ่งดีๆมาให้คนรอบข้าง

และใส่ใจบริการดูแลคนรอบตัวอย่างดี

ให้กำลังใจ ให้แง่คิด ให้ความช่วยเหลือ ให้อภัย ให้ความสนุกสนาน และให้กินอิ่ม นอนอุ่น

 

ตื่นนอนต้องปลุกจิตตัวเองว่า

 

วันนี้สดชื่น วันนี้ต้องทำให้สำเร็จ

ต้องเฮง ต้องร่ำรวย

ต้องทำให้ได้

วันนี้ต้องได้งาน

 

ก่อนนอนต้องปิดจิตตนเองทุกวันด้วยว่า

 

วันนี้ทำงานมาเหนื่อยนะ

วันพรุ่งนี้ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก

วันนี้ขอพักผ่อน ต้องรีบนอน

 

ทำแบบนี้เป็นประจำ ก็จะเฮงตลอดไป

 

ปรับปรุงแก้ไขบทความเมื่อ

๑๕ มกราคม ๒๕๕๖

Comments

comments