คอลัมน์ How to Win
ชนะแบบสวิส
Dr. Uthit Siriwan
วันที่ 19 ธันวาคม 2555
สวิส หรือ สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งได้รับการจัดอันดับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าเป็นอันดับ 1 ของโลก ในฐานะเมืองที่มีสภาพดินฟ้าอากาศ “สะอาดที่สุด” ในโลก
ทัศนียภาพอันสวยงามของสวิส: ในภาพ Laguno, Swiss
ปีนี้ ไทยเรา ติดอันดับที่ 32 ของโลก
การเดินทางท่องทั่วยุโรปครั้งนี้ ผมโชคดีมากๆ ที่ได้เดินทางเข้าออกสวิสหลายครั้ง ได้ผ่านหลายเมือง
ทั้งเมืองซูริค เมืองบาเซิล เมืองลากูโน ฯลฯ
เมื่ออ่านผลการจัดอันดับ ผมเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์
ระหว่างเส้นทาง Basel-Laguno-Milano (Italy)
สวิส เป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ สำหรับการเป็นต้นแบบสู่ชัยชนะ และความสำเร็จแบบสวิส
ข้อแรก ความยั่งยืน ประเด็นนี้ น่าสนใจ หลายๆ เมืองในสวิส มีคนอาศัยต่อเนื่องติดต่อกันยาวนานนับร้อยปี พันปี ทั้งนี้ เพราะบรรพบุรุษชาวสวิส วางตัวเป็นกลาง ไม่รบกับใคร ก็เลยรักษาประเทศให้มีสันติภาพได้ยาวนาน
ข้อที่ 2 การจัดการความแตกต่างและหลากหลาย เป็นประเด็นน่าสนใจและสำคัญยิ่ง ผมพบว่าคนสวิสส่วนใหญ่พูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา ตามแนวชายแดนที่ติดต่อกัน เช่น คนแถบด้านติดกับอิตาลีก็พูดภาษาอิตาเลียนได้ คนสวิสที่อยู่แถบชายแดนฝรั่งเศส-เยอรมัน ก็พูดได้อีก 2 ภาษาเป็นต้น
ทัศนียภาพสวยงามของเมือง Laguno, Swiss
แตกต่างจากบ้านเมืองเรา เรามีแนวพรมแดนติดกันกับอีกหลายประเทศ แต่คนที่อยู่พรมแดนติดกัน แทบพูดภาษาถิ่นอีกฟากกระโน้นแทบไม่ได้ นี่คือข้อด้อย ที่พัฒนากลายเป็นข้อเสียเปรียบ
ข้อที่ 3 อุปนิสัยใจคอ คนสวิส มีประเด็นที่เป็นจุดแตกต่างที่เห็นชัดเจนคือส่วนใหญ่ เยือกเย็น รักสงบ ยิ้มแย้ม เป็นมิตรกับต่างชาติ มีความจริงใจ ซึ่งเรื่องอุปนิสัยใจคอนี้ คล้ายกับคนไทยเรา ซึ่งส่วนใหญ่นิสัยดี มนุษยสัมพันธ์ดี แต่จะแตกต่างตรงที่คนบ้านเมืองเราบางครั้งยังทำเพราะเสแสร้ง
ข้อที่ 4 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เมืองสวิส เป็นเมืองที่เท่าที่ผมสังเกต พบว่าสถิติอาชญากรรมต่างๆ อยู่ในระดับ “ต่ำที่สุด” เมื่อเทียบกับบ้านเมืองเรา ผู้คนที่นี่เดินทางไปไหนมาได้ได้ทุกเวลา ทุกวินาที ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยแคล้วคลาดปลอดภัย สะดวก ไม่น่ากลัวเหมือนยุโรปในบางเมือง
ข้อที่ 5 ความสะอาด และสิ่งแวดล้อม บางคนบอกว่าสิงคโปร์เป็นเมืองสะอาดที่สุดในโลก แต่ถ้าถามผม ผมกลับเห็นว่า “ดูไบ” สะอาดกว่า และเมื่อเทียบกับสวิสแล้ว สวิสมีความแตกต่างตรงที่ มองไปด้านไหนก็สะอาดแบบธรรมชาติ บ้านเรือนต่างๆ สะอาด มาตรฐานเดียวกัน ยิ่งสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติด้วยแล้ว เปรียบเทียบด้านไหนๆ แล้ว สวิสก็ยังมีความสะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสิงคโปร์
ทั้ง 5 ข้อ เป็นหลักการแห่งชัยชนะ ที่ผมคิดว่า องค์การ และกิจการ SMEs ต่างๆ น่าจะนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาคน ควบคู่กับสร้างองค์การให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เมื่อก่อน มีหลายคนบอกผมว่า “สวิส” เป็นเมืองน่าอยู่มากที่สุดในโลก ผมเองยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ครั้นได้มีเวลาเดินทางท่องไปในสวิส หลายวันเข้า ผมเชื่อสนิทใจแล้วว่าเป็นดังคำเลื่องลือจริงๆ
คนผู้หนึ่ง เมื่อกินอิ่ม นอนอุ่น ยั่งยืน อยู่ได้กับความแตกต่างที่หลากหลาย อุปนิสัยใจคอคนรอบข้างเอื้ออารี มีไมตรีจิต มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต อยู่ในเคหสถานบ้านช่องที่สะอาด มองไปทิศทางใดก็เขียวขจี อากาศสดชื่น หายใจเข้าเต็มปอด ไม่ใช่หายใจไม่ทั่วท้อง
กิจการใดๆ ก็ตาม ที่มีลักษณะแบบสวิส เชื่อได้เลยว่า ใครก็อยากมาทำงานด้วย เมื่อคนในองค์กร มีความสดชื่นและมีความหวังก็จะทุ่มเททำความฝันให้สำเร็จให้ได้ เมื่อนั้น องค์การก็จะชนะโดยอัตโนมัติครับ