56. ยอมจำนนชะตาฟ้าดิน

คอลัมน์    How to Win

ยอมจำนนชะตาฟ้าดิน

   ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

Research Director  MBA & DBA Program, Deming Business School, W.H. Taft University

www.demingbusinessschool.com

หนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ

วันพุธที่ 18 กันยายน 2555

ที่นิวยอร์ก มีแม่น้ำเล็กๆ อยู่สาย ชื่อแม่น้ำฮัดสัน

ยามที่รู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่ เดียวดาย หงอยเหงา หลังเลิกงาน ผมชอบไปเดินเล่น

ถนนแบตเตอรีปาร์ก ตัดกับถนนวอลล์สตรีท เป็นอีกถนนที่ผมชอบไปเดินเล่นประจำ

เมื่อก่อนถ้าอยากชมเกาะแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก ก็อาจทำได้ดังนี้

ล่องเรือเที่ยวชมอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพแล้วมองกลับมาที่เกาะแมนฮัตตัน

จะเห็นฉากเบื้องหลัง เป็นภาพตึกแฝด เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่วันนี้กลายเป็นอดีตไม่หวนกลับ

นึกถึงสมัยเป็นเด็กตัวเล็กๆ อายุประมาณ 13-14 ขวบ เคยมีพระสงฆ์จากประเทศลังกาขอดูลายมือ

ท่านบอกผมว่า วันหนึ่งจะได้ไปอยู่ ไปเรียน ไปทำงานสุดขอบฟ้า

ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้ว่าหลังจากนั้น อีกสิบปีเศษ ผมก็ไปอยู่ ไปเรียน ไปทำงานถึงมหานครนิวยอร์ก สุดขอบฟ้าตามโชคชะตาฟ้าลิขิตผ่านลายมือจริงๆ

แต่ชีวิตที่แท้จริง เป็นชีวิตที่ไม่เรียบง่าย ดั่งนวนิยาย โดยเฉพาะชีวิตในเมืองนอก และเมืองใหญ่อย่างมหานครนิวยอร์ก  ชีวิตที่เหมือนฝัน เหมือนคนตื่นจากหลับ ตื่นจากฝัน เพื่อเผชิญกับความเป็นจริงแห่งชีวิต

ที่นั่นอยากร้อน ได้หนาว อยากกินข้าว ได้กินแป้ง ไม่ง่าย ไม่สะดวกสบายอย่างคาดคิด

ท้ายเกาะแมนฮัตตัน มีอนุสาวรีย์วัวกระทิง ยืนเอี้ยวตัวนิดๆ ในลักษณะพร้อมต่อสู้

ผมซื้อสัญลักษณ์นี้กลับเมืองไทย เก็บกลับมาดูเป็นแง่คิด ในวันที่ถึงเวลาลาจากกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ การไม่ยอมจำนน ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

คำๆ หนึ่งที่ชอบปรากฏในห้วงคิดคำนึงคือคำว่า “จะยอมจำนนชะตาฟ้าดินหรือไม่?”

ผมขอเสนอแง่คิดไว้ให้นำไปคิดต่อดังนี้

แง่คิดที่ 1 อย่าจำนนต่อฟ้าดิน อย่าโทษนั่น อ้างนี่ อย่าโยนความผิดให้คนอื่น จะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นในชีวิต ต้องโทษตัวเราเอง พิจารณาตัวเอง ตักเตือนตัวเอง แก้ไขตนเอง

จะสุขหรือทุกข์ จะชนะหรือแพ้ จะสำเร็จหรือล้มเหลว ต้องโทษตัวเราเอง จำไว้ อย่าโทษคนอื่น!!!

แง่คิดที่ 2 โชคชะตา ฟ้าลิขิต พรหมลิขิต หรือกรรมลิขิต? ถ้าถามผม ผมมองว่า ชีวิตแต่ละคน จะมีสัดส่วนผสมผสานกันอยู่ ระหว่าง “ฟ้าลิขิต” “พรหมลิขิต” หรือ “กรรมลิขิต”

บางครั้งโชคชะตาก็เล่นกับเราด้านดี เกินกว่าที่คาดคิด แต่บางคราวโชคชะตาก็เล่นตลก ทำให้เราต้องเผชิญเคราะห์กรรม ทุกข์ โศก โรคภัย คดี ความ อาญา แพ่ง ใส่ร้าย ป้ายสี ต่างๆ นานา

ผมเห็นว่า ไม่ว่าจะชะตาฟ้าลิขิต พรหมลิขิต หรือกรรมลิขิต เราต้องทำหน้าที่ การงานที่เกี่ยวข้องกับเราให้ดีที่สุด จงทำให้ดีที่สุดกับคนรอบข้าง แล้วผลดีจะตอบสนองเราเอง

แง่คิดที่ 3 หากไม่ยอมจำนนต่อชะตาฟ้าดิน จะทำอย่างไร? คำตอบมีว่าหว่านพืชเช่นไร ได้ผลเช่นนั้น ทำดี ย่อมได้ดี ทำชั่ว ย่อมได้ชั่ว

อยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น ต้องมีทิศทางที่ชัดเจน ต้องระบุเป้าหมายชีวิตที่จะไปข้างหน้า ต้องมีนโยบายที่ปฏิบัติแล้ว เห็นผลทันที ทันใด ทันใจ

อาจารย์ของผม ศาสตราจารย์พิเศษ จำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต  ท่านไม่เคยจำนนต่อชะตาฟ้าดิน ในที่สุด ท่านก็ได้เป็นใหญ่ เป็นโต  เป็นปูชนียาจารย์ ส.ส. ส.ว. ลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง

ท่านไม่เคยปล่อยชีวิตอยู่ใต้ดวง เป็นไปตามดวง ชอบทำตนให้อยู่เหนือดวง ด้วยการใช้เหตุ ใช้ผล ทำงานให้ดีที่สุด เน้นผลงานที่มีคุณภาพ เน้นงานที่ท่านถนัดที่สุดคือ “ตรรกศาสตร์” แล้วท่านก็ได้เป็นปราชญ์ด้าน “ตรรกศาสตร์” มีชื่อเสียง มีผลงานที่ผู้คนยอมรับทั้งประเทศ

อยากชนะยั่งยืน อย่าปล่อยชีวิตให้อยู่ภายใต้ดวงดาว อย่ายอมจำนนต่อโชคชะตาฟ้าดินครับ

Comments

comments