38. งบประมาณรัฐบาลไทยปี 2556

งบประมาณไทยปี 2556

ประเด็น ร้อนทางการเมืองในสัปดาห์หน้าคงหนีไม่พ้นการอภิปราย “ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556″ ในวาระที่ 2 และ 3 ของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคมนี้ ก่อนจะส่งต่อให้กับวุฒิสภาอภิปรายและนำไปใช้เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป
คลิกอ่านบทความ “งบประมาณปี 2556” ฉบับ “เต็ม”  ได้ที่ลิงก์นี้

http://www.siamintelligence.com/government-budget-2556/

ผมมีข้อสังเกตสั้นๆ ว่า เราให้ความสำคัญแก่ “ศาสนา วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม” น้อยมาก
จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือปีแห่ง “พุทธชยันตี” และเราเป็น “เมืองพุทธ”

งบปี 2556 รัฐมีเงินอุดหนุนจำนวน “ศาสนา วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม” เพียงแค่ 20,055.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 ของงบประมาณรายจ่ายทั้งสิ้น ที่น่าตกใจส่วนใหญ๋เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการกีฬา (ซึ่งจัดกันมากี่ปี ก็ล้มเหลวเรื่องเหรียญ เช่นปี 2555 ไม่ได้เหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์แม้แต่เหรียญเดียว)
ในส่วนของการพระศาสนา ขนาดองค์การระดับโลกอย่าง UN หรือสหประชาชาติ ยังจัดอันดับยกย่องไทยเป็น
“ศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา” นี่คือความจริงที่แทบไม่น่าเชื่อของสังคมไทย

ฉะนั้น สังคมไทยวันนี้ เมื่อเราละเลยเรื่อง “พุทธศาสนา” หมายรวมถึง “คริสต์”  “อิสลาม” รวมถึง “ซิกข์” และศาสนาอื่นๆ แล้ว ก็เข้าข่ายถูก “รัฐ” ละเลย ทอดทิ้งด้วยเหมือนกัน

ไม่แปลกที่บ้านเมืองเรา เต็มไปด้วยคน “ทุจริต” “ฉ้อฉล” “หิวเงิน”  “กระหาย” เงิน กลายเป็น “เปรต” สูบเงิน สูบเลือด โดยไม่สน “คุณธรรม”

ปรเทศไทยเราก็เลยเกิดปัญหา “สังคม” ไม่สิ้นสุด ทั้งเรื่องยาบ้า ยาเสพติด ความปลอดภัยในชีวิตและ
ทรัพย์สิน ข่มขืน เมามาย ไร้สติ สิ้นคิด  และปัญหาอื่น ๆ ไม่สิ้นสุด ฯลฯ

ในส่วนที่เป็นนโยบายนอกเหนือจากการจัดการศึกษา นอกจากนั้น ยังเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม การศาสนา ค่าใช้จ่ายในการกระจายเสียงและจัดระบบโทรทัศน์ ตลอดจนการบริหารด้านสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ การจัดสร้างสวนสาธารณะหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ และสวนพฤกษศาสตร์ ตลอดจนการวิจัยและการพัฒนาด้านการศาสน วัฒนธรรม และนันทนาการ

ซึ่งเงินส่วนใหญ่หมดไปกับ “กีฬา” ซึ่งแท้ที่จริง การแก้ไขปัญหาด้วย “กีฬา” อย่างเดียว แก้ไม่ได้หรอกครับ
การแก้ปัญหา จะต้องแก้ให้ครบทั้ง “ร่างกาย” “จิตใจ”

จะแก้ด้วย “ร่างกาย” แต่ “จิตใจ” ไม่แก้ ไม่ได้ผลหรอกครับ

รัฐต้องแก้ไขคนที่จิตใจ โดยใช้ “หลักศาสนา”
และแก้ไข “สิ่งแวดล้อม” โดยดูแลระบบป้องกัน รักษา ควบคุม “มวลน้ำ” มิให้เกิดขึ้นเป็น “ภัยพิบัติ”
ดังเช่นที่เคยเกิดในอดีต

ผมอ่านบทความ State Capitalism  Comes of Age ตีพิมพ์ในวารสาร Foreign Affairs  ฉบับ 88, 3 (May, June 2009) : 40-55 เขียนโดย Bremmer, Ian ตำแหน่ง President of Eurasia Group แล้วตามคำแนะนำของศาสตราภิชาน ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้แง่คิดจากบทความ “รัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ” ดังนี้

1. ประธานบริหาร Gazprom ยักษ์ใหญ่น้ำมันแห่งรัสเซีย คล้่ายปตท. ชื่อ Mikahil Fradkov กลุ่มบริษัทแกซปรอมผูกขาดกิจการ “แกสธรรมชาติ” รายเดียวในรัสเซีย ส่วนอดีตประธานบริหารแกซปรอมคือ Dmitry Medvedev ปัจจุบันเป็นประธานาธิบดีของ “รัสเซีย”
2. กระแส “รัฐบาล” โลกยุคใหม่ ที่น่าจับตามองคือ ผู้นำ “รัฐบาล” กับ ผู้นำ “กิจการระดับโลก” ต่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หมายความว่า ปัจจุบันประเทศ “พัฒนาแล้ว” ทั้งหลาย ต่างถือครองหุ้น 3 ใน 4 ส่วนของกิจการ “พลังงาน” ทั่วโลก
3.ถ้าตีความว่า “พลังงาน” คือ “สิ่งแวดล้อม” และ “สิ่งแวดล้อม” คือพลังงาน ก็น่าเศร้าว่า “พลังงาน” ถูกทอดทิ้งเหมือน “พระพุทธศาสนา” ถูกผลักดันมาอยู่ใน “หมวดเดียวกัน”
4. การเป็นเช่นนี้ ย่อมขัดกับ ข้อ 1-2 ข้างต้น วันนี้ ผู้นำ ปตท. ผู้นำ SCG ผู้นำ การไฟฟ้า ฯลฯ ควรจะเป็น “ผู้นำรัฐบาล”
นำประเทศสู่ “อาเซียน” เช่นเดียวกับ จีน รัสเซีย และอื่นๆ โดยเฉพาะ “รัสเซีย” และ “จีน” ผู้นำ “ซิติก” กิจการลงทุนด้านพลังงาน
ใหญ่ที่สุดในจีนคือ “ผู้นำ” คนหนึ่งของ “จีน”
5. จีน “สร้าง” ผู้นำ โดยผ่าน  2 ทาง ด้านหนึ่งคือ “ภาคธุรกิจ” อีกด้านคือ “ภาคการปกครอง” มีมหาดไทยเป็นแกนนำ ควบคู่กับ
“ภาคการค้า”
6. ผู้นำจีน “รู้เรื่อง” ตามความสามารถและความถนัด  ดังนั้น เมื่อขึ้นมานำประเทศ ก็สามารถใช้สิ่งที่ “รู้เรื่อง” แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

7. ผู้นำไทย มาจาก “นักการเมือง” เล่าสนุกแบบ “เอามัน” ในสโมสร “ทำเนียบรัฐบาล” และ “รัฐสภา” ว่า

ถ้าคนปฏิบัติไม่ได้ ทำไม่เป็นแล้วก็ไปเป็นที่ปรึกษา เป็นที่ปรึกษาไม่ได้ ก็ไปสอนหนังสือ สอนไม่ได้ ก็ไปเล่นการเมือง

ในฐานะ “ภาคประชาชน” ก็อยากฝากถึง “นักการเมือง” ทุกฝ่ายในสภาว่า ท่านอย่าเป็นดังเสียง “ซุบซิบ” ขอให้ท่านเป็น “นักปฏิบัติ” จัดการกับ “งบประมาณ” และ “สำนักงบประมาณ” โดยไม่ต้องเกรงใจ เน้นทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
และ “ประเทศชาติ” อย่างแท้จริง

หวังว่าในปีต่อๆ ไป งบประมาณ “การพระศาสนา และการพลังงาน รวมถึงสิ่งแวดล้อม” จะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ “การศึกษา” นะครับ

 

Comments

comments