37. เลี่ยงเชียงโมเดล: บุญ-แบงก์-บันเทิง

คอลัมน์    How to Win

ฉบับ PDF คลิกดาวน์โหลดที่นี่

แนะนำให้อ่านฉบับPDF

เพราะมีภาพและสีสันสวยงามกว่า

Web Edition

บทความที่ 38 เผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ
และเว็บไซต์   www.druthit.com

เขียนให้อ่าน เป็นวิทยาทาน  ฟรี นำไปเผยแพร่ต่อได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
(จะระบุชื่อ-สกุลไว้อ้างอิงก็ถือเป็นการให้เกียรติ จะไม่ระบุ จะละเมิดลิขสิทธิ์ ก็ไม่ว่า)

เลี่ยงเชียงโมเดล

   ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

Research Director  MBA & DBA Program, Deming Business School, W.H. Taft University

www.demingbusinessschool.com

หนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ

วันพุธที่ 8 สิงหาคม 2555

 

ร้าน 7-11 ที่มีแผงหนังสือ ถ้าค่อยๆ สังเกต จะพบหนังสือธรรมะแนวใหม่ อักษรย่อ “DNC” ย่อจากคำอ่านว่า “ธรรมะนิวเคลียร์” รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

http://www.lc2u.org/th/index.php

ผู้บริหารกิจการรุ่นนี้ ชื่อ “มณฑน์จิตต์เกษม จงพิพัฒน์ยิ่ง”  สำนักพิมพ์ “เลี่ยงเชียง” แห่งนี้ จากการจัดอันดับของสมาคมสื่อสิ่งพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเป็นอันดับ 1 ว่าเก่าแก่มากที่สุดในเมืองไทย

การบริหารงานที่โดดเด่นคือ  “ไม่ใช้คนทำงานฟรี” กิจการ SMEs ที่ชอบใช้คนฟรีคงต้องเก็บไปคิด

ผมเอง ยึดหลักการเขียน How to Win ว่าเป็นการผสมผสาน วิธีการ รูปแบบต่างๆ ที่นำไปสู่ “ชัยชนะ” ด้วยองค์ความรู้ที่เกิดจาก “ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ประสบการณ์”

วันนี้ เราลองมาฟังความคิดเห็นของคนที่มีประสบการณ์ มีผลงานจากการปฏิบัติ นำเสนอ “ทฤษฎี” แบบ SMEs หรือที่ ผศ. ดร. ผดุง พรมมูล มรภ. สวนดุสิต ชอบใช้คำว่า “ทฤษฎีแบบบ้านๆ”

ผมชอบคำว่า “บ้านๆ” ที่อาจารย์ผดุงพูด และก็ไม่เคยได้ยินอาจารย์อื่นๆ พูด ก็เลยนำมาบอกต่อ

พี่เฉิน หรือ “มณฑน์จิตต์เกษม” จบวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาถ่ายภาพและการพิมพ์ จากจุฬาฯ จากนั้นไปฝึกงานที่ “อิตาลี” อีก 1 ปี

กลับมาบุกเบิกหนังสือแนว “นักธรรม-บาลี” จนพระ-เณรสำนักเรียนบาลีวัดต่างๆ ใช้กันถ้วนทั่ว

วัดดังในเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัดพระสิงห์ วัดสวนดอก วัดดอยสุเทพ วัดบุพพาราม วัดดอยสะเก็ด มีหนังสือนักธรรมและบาลีของ “เลี่ยงเชียง” อยู่ตามกุฏิโน้นกุฏินี้ทั้งนั้น พระเณรวัดต่างๆ รู้จักคุ้นเคยชื่อนี้ดี

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2555 ผมได้พบปะพูดคุยกับ “พี่เฉิน” ซึ่งเพิ่งเรียนจบคอร์ส “จิตตานุภาพ” จากสถาบันจิตตานุภาพ ของหลวงพ่อวิริยังค์

คุยกันตั้งแต่ 2 ทุ่มของวันที่ 6 จนถึงตี 3 วันที่ 7 สิงหาคม เรียกว่า “คุยข้ามคืน” ก่อนสรุปเป็น “เลี่ยงเชียงโมเดล”

พี่เฉินนำเสนอว่า จะทำธุรกิจให้ “ยั่งยืน” ได้ อย่าโลภมาก ต้องให้มากกว่ารับ ต้องทำแล้วมีความสุขจึงค่อยทำ

สรุป เดินสายกลาง ได้ใจลูกค้า พนักงานมีความสุข ยึดหลัก 4 ไม่ “เค็ม-เหนียว-เขี้ยว-เบี้ยว”

เลี่ยงเชียงโมเดล กลั่นกรองจากประสบการณ์ทำธุรกิจมากว่า 27 ปีเกิดจาก  “3 บ”

บอที่ 1 บอบุญ บอที่ 2 บอแบงก์  บอที่ 3 บอบันเทิง  เขียนเป็นสมการว่า

เลี่ยงเชียง: บุญ-แบงก์-บันเทิง

ทฤษฎีนี้เชื่อว่า บอบุญ คนที่มีบุญมาก ทำอะไรก็สำเร็จง่าย สะดวก รวดเร็ว ต้องหมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนาให้มากๆ  คนมีบุญน้อย ทำใดๆ ก็ติดขัด ไม่สะดวก ไม่ราบรื่น

โดยย่อ นั่งสมาธิให้ได้วันละครึ่งชั่วโมง เดินจงกรมอีกวันละครึ่งชั่วโมง ศาสนาไหนก็ทำได้  “คิด” ทบทวนสิ่งที่ทำมาในแต่ละวันให้มีสติ รอบคอบ ไม่ประมาท ก็จะบริหารกิจการ “นิ่ง” ไม่ผิดพลาด

บอแบงก์ ทำธุรกิจ ต้องหมุนเงินให้ได้ ใช้เงินให้เป็น หาให้ได้มากกว่าที่เสียดอกให้แบงก์

บอบันเทิง ชีวิตคน ต้องมีเวลา “ปลีกวิเวก” ให้ความบันเทิง พักผ่อนหย่อนใจ ดูหนัง ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ กินอาหารอร่อยนอกบ้าน เดินทางเที่ยวในและต่างประเทศ  ชาร์จแบตให้เต็ม จะได้มีพลังสู้ต่อไป

เจ้าของกิจการใด มีโมเดลความสำเร็จแบบ “เลี่ยงเชียงโมเดล”  อยากเผยแพร่สิ่งดีๆ สู่สังคม ส่งเรื่องราวของท่านมาที่ druthit@druthit.com ยินดีเผยแพร่สู่วงกว้างครับ

Comments

comments