ชะตาชีวิตที่ดี
ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ
๕ กันยายน ๒๕๕๘
*ในภาพคือปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น: 姫路城 Himeji-jo, Himeji Castle ?) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมะจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ปราสาทฮิเมะจิ
วันนี้ อยากพูดคุยเรื่อง “ชะตาชีวิตที่ดี” ซึ่งประกอบด้วย การใช้ชีวิตให้เป็น ใช้ชีวิตให้คุ้ม และใช้ชีวิตให้ความสุข โดยมีสุขภาพกายที่แข็งแรง และสุขภาพใจที่ดี
ผมเอง เพลิดเพลินกับการทำงาน ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทำงานหนักมาทั้งชีวิต จนอายุย่างเข้าเลข ๕ ในวัยของหนุ่มใหญ่วัยกลางคน ที่กำลังร่วงโรยเข้าสู่วัยชรา
ก็อยากเก็บประเด็นเรื่อง “สุขภาพ” มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเก็บไปคิดเป็นอุทาหรณ์ว่า อยาทำงานเพลิน จนลืมดูแลตัวเอง เหมือนเช่นที่ผมกำลังทำอยู่
“ชะตาชีวิตที่ดี ” เป็นผลลัพธ์ที่มีสาเหตุเกิดจากกายและจิต ส่วนตัวผมมองว่า “อำนาจ” และ “เงินตรา” เป็นเรื่องเล็ก “สุขภาพที่ดี” และ “ความสุข” เป็นเรื่องใหญ่
ช่วงชีวิตเข้าสู่วัยชรา หลังชีวิตเผชิญร่องมรสุมเลวร้าย ตกหลุมอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะเดียวกัน ก็เผชิญกับ “เดือนช่วง ดวงเด่นฟ้า ดาดาว” “มองเห็นเดือนและดาวพร่างฟ้า”
ผมก็ได้ตระหนักถึงสัจธรรมชีวิต และได้มุมมองว่า “การไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ”
นอนในคฤหาสน์ หรือนอนในเรือนจำ สิ่งที่คนปกติและคนไม่ปกติมีเหมือนกันคือ “ชะตาชีวิตที่ดี”
จะนอนในไทยหรือต่างแดน ลงว่าชีวิตมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพ นั่นคือการมีชะตาชีวิตที่ดี
ผมเองสุขภาพค่อนข้างจะมีปัญหา เต็มไปด้วยหลายโรครุมเร้า ทั้งเบาหวาน ไขมัน ความดัน และคอเลสเตอรอลอยู่ในระดับสูง
ทุกวันนี้ก็ต้องควบคุมและป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะ “เบาหวาน” และ “ความดัน”
ช่วงสองสามปีมานี้ ได้พบคุณหมอต่างๆ ได้เกร็ดความรู้ว่า คนเราต้องดูแลกายและจิตพร้อมกัน เท่าที่ประมวลข้อคิดเห็นและข้อแนะนำจากคุณหมอท่านต่างๆ สรุปไว้ได้น่าคิด น่าลองทำตาม
โดยเฉพาะ “คุณหมอบุญชัย อิศราพิสิษฐ์” เจ้าของหนังสือ “พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา” แนะนำไว้แล้วสมควรน้อมนำมาปฏิบัติ เพื่อการมี “ชะตาชีวิตที่ดี”
“จินตนาการ” ห้ามใช้ในทางลบ ต้องใช้ไปในทางบวก และคิดสร้างสรรค์เท่านั้น อย่าคิดลบ คิดร้าย มองคนรอบข้างติดลบ มองสถานการณ์ไม่ดี
“ห้ามอ้วน” ห้ามบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่มากจนเกินพอดี
“ห้ามทานน้ำมัน” คุณหมอแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้น้ำมันหมู และน้ำมันมะพร้าว เพราะไม่เกิด trans fat* ห้ามใช้น้ำมันอื่นๆ ยกเว้น “น้ำมันมะพร้าว” ในการปรุงอาหาร ฟังแล้วดูดี แต่ปฏิบัติตามยากเหมือนกัน
“ห้ามทานสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม” เพราะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นสัตว์ฉลาด จึงสร้างสารพิษ เหนียว ย่อยยาก แนะนำให้ทานปลาเท่านั้น
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีภาวะไตเสื่อม และเบาหวาน
คุณหมอแนะนำว่าให้
“ทานผักและผลไม้สด” โดยเฉพาะถั่วขาว และแก่นตะวัน จะช่วยลดไขมันและเบาหวาน รวมถึงถั่วหลากชนิด ถั่วเหลือง ถั่วขาว ถั่วแดง ถั่วเขียว และข้าวโพด
รวมถึงลูกเดือย ถั่วเขียว และธัญพืช ทั้งผักและผลไม้สด ซึ่งจะช่วยบล็อก น้ำตาล และลดแป้ง ให้พยายามกินปลา และถั่วต่างๆ ถ้ากินแบบนี้ได้ โรคจะไม่มี
อยากให้สุขภาพดี ต้อง “ผัก” นำหน้า โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน และผักตามฤดูกาล อย่างเช่น ใบเตยหอม ต้นอ่อนข้าวสาลี ใบบัวบก ใบชะพลู ใบหญ้านาง ใบหม่อน
สัดส่วนคร่าวๆ อย่างละเท่ากัน ถ้าเป็นผักสกัดกากได้ ถ้าเป็นผลไม้ห้ามสกัดกาก นม “นวพืช” ใส่ถั่ว ๖ อย่าง ถั่วเขียว-ขาว-แดง-เหลือง-ดำ-แอลมอนด์ รวมถึงน้ำกระเจี๊ยบ-หญ้าหวาน-แก่นตะวัน
เบญจรงค์ คือผักหลายสีห่อด้วยไข่
เมนูที่คนไทยกินได้บ่อยคือ น้ำพริก – ซุปปลาข้น -ถั่วต่างๆ
ท่่านแนะนำให้ทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ ดีที่สุด การกินอาหารประเภทนี้ทำให้ไตฟื้น เซลส์ตาย เซลส์ใหม่จะฟื้น ทดลองเดือนเดียว ชีวิตจะเปลี่ยน ค่าไตจะลดลงต่ำที่สุด เดือนเดียวเห็นผล
“ข้าวไม่ขัดขาว” เป็นข้อแนะนำ สำหรับคนที่อยากมีชะตาชีวิตที่ดี ไม่ได้แปลว่าอยู่นาน มี ๒ อย่างคือ มีความสุข และสุขภาพดีได้ หนึ่งในนั้นคือความสุขทางใจ ถ้าทำได้แบบนี้
อายุจะไปสิ้นสุดตรงไหน ก็ปล่อยวาง
ขอให้คนเรามี “ศรัทธา” คนเราลงว่า “ศรัทธา” จะทำอะไรก็ทำได้ เพราะคนเราถ้าไม่เป็นโรคอะไรเลย ก็จะไม่มีวันที่จะพานพบกับชะตาชีวิตที่ดี
ผมถึงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “ตกต่ำให้ถึงที่สุดแล้วจะเฮง ชีวิตจะดีดกลับ” เป็นกำลังใจสำหรับคนที่ชีวิตเข้าสู่หนทางที่ตีบตัน ต้องต่อสู้ดิ้นรน ฟันฝ่าเอาชนะอุปสรรคปัญหาต่างๆ ให้ได้
อย่านั่งหวัง นั่งรอราชรถเข้ามาเกย เพราะไม่เคยเลยที่จะมีใครสมหวังด้วยการนั่งรอ
เพราะถ้าเราเป็นโรคแล้ว เรามีสิทธิจะเสี่ยง ไม่ผิดจรรยา ไม่ผิดศีลธรรม สิ่งที่ “ตำราแพทย์” บอกไม่หาย ถ้าเราได้ลอง และพิสูจน์ได้จากเครื่องตรวจระดับน้ำตาล และลดความดัน
ก็จะพบกับ “ชาตาชีวิตที่ดี”
คุณหมอมีคำแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหลายเรื่อง
“ต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง”
“ถึงเวลานอนต้องนอน สี่ทุ่มครึ่งถึงตีสอง” ให้หากิจกรรมเพลิดเพลินทำตอนดึก
“เที่ยงควรนอนสัก ๒๐ นาที”
“จินตนาการเชิงบวก สร้างทุกอย่างในชีวิต สร้างจิตที่ดี สร้างชีวิตที่ดี สร้างอนาคตที่ดี”
เบาหวาน เป็นโรคน่าห่วงที่สุด เพราะนำมาซึ่งโรคอื่นๆ ทั้งหมด เบาหวาน เป็น “ต้นทาง” เมื่อ “แก้ไข” ต้นทางได้ ปลายทางก็หายขาด
ต่อไปนี้ ถ้าเราเป็นโรคร้ายแรงขนาดไหน ขอให้เราใช้เวลาค้นหา “เส้นทาง” เพื่อต่อสู้เอาชนะโรคภัยไข้เจ็บ และอุปสรรคใดๆ ในชีวิต ถ้าเราไม่ตกอยู่ใต้กรอบความกลัว และโลกแคบๆ
ชีวิตเรายังเดินได้ต่อไป ถ้าเราเดินได้ถูกทิศทาง ดังคำว่า “You are what you eat” ต่อให้ร่ำรวยแค่ไหน ถ้าไม่ปฏิบัติที่ดี ก็จะเผชิญโรคร้าย ทั้งหลายทั้งปวง อยู่ที่เรา เราคิดว่าเราทำได้ ก็จะทำได้”
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ trans fat คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.vcharkarn.com/varticle/41558