คอลัมน์ How to Win
ดิสนีย์เวิลด์ นวัตกรรม ฝันที่กลายเป็นจริง
ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ
13 พฤษภาคม 2557
อัพเดต ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗
———–
“บัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยจำนวนมากพบกับความผิดหวังในตลาดแรงงาน และตัดสินใจไม่ร่วมเดินไปในเส้นทางการเป็นลูกจ้างบริษัท ถูกมองว่าเป็นพวกบ้าบิ่น เอาแต่ใจ ใจร้อน แต่เป็นกลุ่มคนที่ช่วยกันจุดประกายให้เราได้มีสินค้าใหม่ บริการใหม่ วิธีการใหม่ และไอเดียใหม่มากมายนับไม่ถ้วนในทุกมุมโลก”
Wall Street Journal
ขณะผู้อ่านกำลังอ่านต้นฉบับ ผมยังเดินทางอยู่ในหมู่เกาะเทิร์กและเคคอส ประเทศอังกฤษ ประเทศบาฮามัส และกำลังท่องไปในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
ทุกประเทศที่ผมท่องเที่ยวไปล้วนเผชิญความเสี่ยง ทั้งจาก “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ” “ภัยธรรมชาติ” และ “การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง” เหมือนที่เมืองไทยเรากำลังเผชิญเห็นและเป็นอยู่ในเวลานี้
กลยุทธ์เอาชนะ “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ” ผมขอสรุปจากที่ “ตาดู” “หูฟัง” เห็นเป็นข้อๆ ดังนี้
กลยุทธ์ข้อแรก “เปิดใจ” คนและองค์กรที่จะอยู่รอดได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะต้องเปิดหู เปิดตา เปิดใจให้กว้าง น้อมรับความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม หากไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ก็จะกลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นความก้าวหน้า ในห้วงเวลาที่ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมมีความสำคัญ และมีอิทธิพลต่อการเพิ่มพูนขีดความสามารถในการแข่งขัน
ดิสนีย์เวิลด์เป็นองค์กรเปิดใจเปิดใช้นวัตกรรมด้านไอทีหลากหลายทั้งการรับ ชำระเงิน การบริการ นวัตกรรม เทคโนโลยี โรงแรม รีสอร์ต การท่องเที่ยว ภาคบันเทิงแบบครบวงจรที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้ที่อาบูดาบี หมู่เกาะเทิร์กและเคคอส บาฮามัส ก็ตกอยู่ในสภาวะ “เปิดใจ” เช่นเดียวกัน ไม่แปลกที่จะพบว่าดูไบและอาบูดาบี คนที่ไม่โพกหัว และนุ่งสั้น สามารถเดินและใช้ชีวิตอิสระได้อย่างเป็นสุข ในขณะที่กลุ่มเคร่งศาสนาก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีสุขเช่นกัน โดยไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น
กลยุทธ์ข้อที่ 2 “ปรับเปลี่ยนวิธีใช้เงินใหม่” องค์กร ยุคใหม่จะต้อง “ดึงดูด” และสร้าง “แรงดึงดูด” ให้คนเข้าร่วมกิจกรรมให้มากที่สุด ใช้เวลาอยู่ร่วมให้นานที่สุด และต้องทำให้คนเข้าร่วมเกิดความรู้สึกร่วมว่าลงทุนต่ำกว่า แต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่า ใช้เงินน้อยกว่าเดิม ได้รับผลตอบแทนมากกว่า รู้สึกคุ้มสุดคุ้มเมื่อเทียบกับเงินที่ใช้กับคู่แข่งรายอื่นๆ ในธุรกิจคล้ายคลึงกัน
ที่เมืองออลันโด บุฟเฟต์แบบเหมาจ่ายกินได้ทุกอย่างไม่จำกัดเวลาเริ่มต้นตั้งแต่ราคาสองร้อย บาทเศษ กินได้ทั้งกุ้งหอยปูปลาหมูไก่ผัก ต้นทุนกินอาหารต่ำกว่าบุฟเฟต์เมืองไทย เป็นกรณีศึกษาน่าสนใจ
ในหมู่เกาะบาฮามัส โรงแรมมีตั้งแต่คืนละไม่กี่พันบาทจนถึงคืนละ 700,000 กว่าบาท! ความจริงอันน่าทึ่งก็คือว่า โรงแรม 7 ดาวแถบคาริบเบียนราคาแพงกว่าโรงแรมหรู 5 ดาวในนิวยอร์กลอนดอนและปารีส !
แต่ลูกค้าก็จองพักกันตรึม แน่นและเต็มเอี๊ยดทุกวัน ไม่ยกเลิกการจองเดือดร้อนเหมือนธุรกิจทัวร์บ้านเราเผชิญเพราะไม่มีปัญหา วุ่นวายทางการเมืองให้ผู้คนตื่นตระหนกช็อกและรู้สึกหวาดผวา หวาดกลัว!
ในอเมริกา ยุโรป คาริบเบียน และตะวันออกกลาง เทคโนโลยี 4G กำลังเปลี่ยนรูปแบบวิธีการใช้เงิน เดี๋ยวนี้มีแอพเช่น Booking.com เกิดขึ้นรับจองและชำระค่าโรงแรมและตั๋วเครื่องบินราคาถูกกว่าจองตรง!
หลักการ รูปแบบและวิธีการใช้เงินที่เปลี่ยนไป ทันสมัย รวดเร็ว ผมพบว่าหลายแห่ง “รับเงิน” ค่าบริการโดยใช้ “ออนไลน์” เป็นกรณีน่าสนใจเก็บมาวิเคราะห์อีกตอนหนึ่งเช่นกัน
คนที่ล้ำยุค ทันสมัย จะก้าวทันอนาคต ส่วนคนที่ละเลยเทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ จะถูกละทิ้งไว้ข้างหลัง เคยได้เงินเดือน เดือนละหมื่นกว่าบาทอย่างไร อีกยี่สิบปีก็จะยังคงรับเงินน้อยอยู่อย่างนั้น
กลยุทธ์การเปิดใจ และปรับเปลี่ยนวิธีใช้เงินใหม่ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ท่านชนะได้ยั่งยืนครับ