33.กล้าที่จะนับ 1 ใหม่

คอลัมน์    How to Win

กล้าที่จะนับ 1 ใหม่

งานบริการวิชาการสู่สังคม

ด้วย “นวัตกรรมความคิด” เพื่อการจัดการ และแก้ปัญหา

ด้วยหลักการจัดการ หลักการบริหาร และหลักธรรมะ แบบผสมผสาน

“ความคิด และความเชื่อที่ถูกต้อง นำไปสู่โครงการดีๆ มีผลต่อเศรษฐกิจและสังคม”

นำเสนอโดย

   ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

Full Professor & Research Director  MBA & DBA Program, Deming Business School,
W.H. Taft University, Colorado, USA

www.demingbusinessschool.com

อ่านแล้ว เกิดความรู้สึกอยากแลกเปลี่ยน แบ่งปัน ประสบการณ์ และความคิดเห็น

ติดต่อผู้เขียนได้ที่

e-mail: druthit@druthit.com

ช่องทางในการอ่านบทความของผู้เขียน

1. เว็บไซต์ www.druthit.com
2. เว็บไซต์ www.dba.or.th
3. หนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ

วันพุธที่  25 กรกฎาคม 2555

 

วิถีสู่ชัยชนะ สำคัญที่สุด ต้องกล้าที่เริ่มต้นด้วยการนับ 1 ใหม่ !!!

จากการสังเกต ผมพบว่า คนส่วนใหญ่ที่สำเร็จกับคนที่ล้มเหลว มีแนวความคิด วิสัยทัศน์ ทิศทาง แนวทางทำงาน เป้าหมาย จุดมุ่งหมาย จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส วิกฤต และแผนการไม่แตกต่างกัน

แล้วที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจนเกิดความสำเร็จหรือล้มเหลว คืออะไร?

คำตอบที่ผมพยายามค้นคว้ามานาน จนได้ข้อสรุปว่า มีเพียง 2 ประเด็น

                ประเด็นแรก คนที่สำเร็จ กับคนที่ล้มเหลว แตกต่างกันตรงที่ “ความคิด”

                ประเด็นที่ 2 คนที่สำเร็จ กับคนที่ล้มเหลว แตกต่างกันเนื่องจาก “ความเชื่อ” ไม่เหมือนกัน

คนที่ล้มเหลว  ในสมอง มักเต็มไปด้วยความคิดที่ “เป็นข้อจำกัด” คิดเป็น เห็นแต่ “อุปสรรค” มองไปรอบตัว ก็เห็นแต่ “วิกฤต” “เคราะห์กรรม” “เคราะห์ร้าย”  “โชคร้าย” อยู่รอบด้าน ทุกทิศทาง ตีบ ตัน มืดมัวไปหมด

แตกต่างจากคนที่สำเร็จ ในสมอง คิดแต่เรื่องดีๆ เรื่องบวก คิดเห็นแต่จุดแข็ง ข้อดี โชคดี เคราะห์ดี

ในวิกฤต ผู้ชนะมองเห็นเป็นโอกาส ในหายนะ มองเห็นเป็นประโยชน์ต่างๆ นานา ในภัยพิบัติรอบด้าน กลับมองเห็นแต่สิ่งดีๆ เชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าถ้าก้าวข้ามอุปสรรคครั้งนี้ได้ จะสำเร็จยิ่งใหญ่ได้ในท้ายที่สุด

ในส่วนของประเด็น “ความเชื่อ” คนที่ล้มเหลวส่วนใหญ่ มักเชื่อตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่า “เป็นไปไม่ได้” “ไม่สำเร็จหรอก” “ไม่มีทางทำได้หรอก”  “ไม่เป็นไปอย่างที่คิดแน่ๆ” “ไม่ได้หรอก” “ไม่เชื่อว่าทำได้”

เมื่อลึกๆ ในใจไม่เชื่อมั่นไม่ศรัทธา  ถึงที่สุดแล้ว แผนที่วางไว้ ก็จบลงด้วยความล้มเหลว

เจ๊ง เจ็บ จน

เสียเงิน เสียงาน เสียเวลา เสียโอกาส เสียเพื่อน เสียกิจการ เสียครอบครัว เสียธุรกิจ

ที่น่ากลัวอย่างยิ่งคือ “เสียความเป็นตัวของตัวเอง”  และ “เสียความมั่นใจในตัวเอง”

เสี่ยง มาคู่กับ เสีย เป็นคำคู่กัน ความเสี่ยงในชีวิตคนเรา มีไม่กี่เรื่องที่เข้าขั้น “ภัยพิบัติ”

โดยย่อคือความเสี่ยงทางการเมือง ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ความเสี่ยงด้านสังคม วัฒนธรรม ศาสนา และความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

ทุกความเสี่ยง แก้ไขได้ด้วยการ “เริ่มต้นใหม่” หรือ “นับ 1 ใหม่”

คนที่จะสำเร็จ คือคนที่ต้องคิด และเชื่อว่า ทุกอย่าง ทุกปัญหา ทุกเรื่องราว ผูกแล้วแก้ไขได้ นับ 1 ได้ ลุล่วงได้ สำเร็จได้ อย่าท้อแท้ อย่าวิตก อย่ากังวล เมื่อทำการใด ๆ ที่ดีที่สุดแล้ว  เมื่อทำไปแล้วถึงทางตัน ก็ต้องนำผลมาคิดทบทวน มุ่งมั่น และเดินหน้าต่อด้วยการพิจารณารอบคอบ ลงรายละเอียดให้ถี่ถ้วน ให้ดีกว่าเดิม
ก็จะเปลี่ยนจากวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส เปลี่ยนจากเคราะห์ร้ายเป็นเคราะห์ดี เปลี่ยนความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ

  โดยทั่วไป ปัญหาที่คนเราเผชิญ มี 3 เรื่อง ปัญหาครอบครัว ปัญหาเรื่องเงิน ปัญหาเรื่องงาน

จะมีปัญหาใดๆก็แล้วแต่ให้หยุดคิด ตั้งสติ ตั้งหลัก จากนั้นนับ 1 ใหม่ โดยใช้หลักการดังนี้

หลักข้อที่ 1 ถ้าเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเราเอง ก็ลงมือแก้ทันทีอย่าปล่อยให้ลุกลาม

หลักข้อที่ 2 ถ้าเป็นปัญหายุ่งยากก็ปล่อยคนอื่น เช่น ตำรวจ อัยการ หรือศาลแก้ให้ แต่เราต้องถูกต้อง

หลักข้อที่ 3 บางปัญหา เช่นความรัก ต้องใช้กาลเวลา เยียวยา ยุติบาดแผลในใจ ใครก็แก้ไขให้ไม่ได้

หลักข้อที่ 4 ถ้าเป็นปัญหาที่ตกลง เจรจา ประนีประนอม มีทีท่ายุติลงได้ ก็เลือกวิธีเจรจา ไม่ว่าโจทก์ ผู้ร้องทุกข์ กล่าวโทษ จะเป็นเจ้าหนี้ เจ้ากรรม นายเวร หรือผู้เสียหาย ก็ต้องเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติ

ทุกปัญหา แก้ไขได้ ถ้ากล้านับ 1 ใหม่ ด้วยหลักการ 4  ข้อข้างต้น

ท่องไว้ในใจได้เลยว่า “ปัญหามีไว้แก้ ไม่ใช่มีไว้กลุ้ม”
“ทุกครั้งที่มีปัญหาต้องใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาด้วยการนับ 1 ใหม่”
แล้วจะพบวิถีแห่งชัยชนะได้ ในท้ายที่สุด             

Comments

comments