ความเชื่อ โชคชะตา ลางสังหรณ์
อุทิส ศิริวรรณ, DIBA & Ph.D.
ศาสตราจารย์ประจำ และผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศวิจัยอาเซียน
MBA & DBA Program
Deming Business School, W.H. Taft University, Colorado, USA

วันที่ 10 เมษายน 2556
ตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ
ฉบับเดือนเมษายน ๒๕๕๖
———–
ชัยชนะยั่งยืน คือการเอาชนะ “ความเชื่อ” “โชคชะตา” และ “ลางสังหรณ์”

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเผด็จการแห่งเยอรมัน มีความเชื่อในพลังอำนาจอันวิเศษและเร้นลับของหมายเลข 7 ว่าคือเลขที่นำโชคดี โอกาสดี และสิ่งดีๆ สู่ชีวิต

วูดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีคนที่ 28 แห่งสหรัฐอเมริกาเองก็มีความเชื่อในหมายเลข 13 ว่าเป็นตัวเลขวิเศษ มหัศจรรย์ ทั้งนี้เพราะชื่อของเขาคือ Woodrow Wilson นับได้ 13 อักขระ

นีลส์ บอร์ นักฟิสิกส์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาทฤษฎีอะตอมแนวใหม่ สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกและดำรงตำแหน่งวิชาการระดับศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์ แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ก เป็นคนที่อับเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยกย่องว่า “โดดเด่น” ด้าน “อะตอม”
บอร์ มีนิสัยแปลก ชอบเอา “เกือกม้า” แขวนไว้หน้าประตูบ้าน ครั้นเพื่อนๆ สงสัยว่าแขวนไว้เพื่อ “ความเฮง” คำตอบคือ “ไม่…แต่หลายคนบอกผมว่าแขวนไว้แล้วจะโชคดีนะ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตามที”
งานวิจัยในปี 2000 ยืนยันว่าคนอเมริกัน 72% มีเครื่องรางอย่างน้อย 1 ชิ้นพกติดตัว
นักศึกษาระดับปริญญาตรีแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ชอบแตะที่เท้าของรูปปั้นจอห์น ฮาร์วาร์ด ก่อนเข้าสอบเสมอ
เช่นเดียวกับนักศึกษา MIT ชอบถูบริเวณจมูกที่ประดิษฐานแผ่นทองเหลืองจารึกภาพนักประดิษฐ์ชื่อจอร์จ อีสต์แมน
จีนและญี่ปุ่นไม่นิยมเลข 4 เพราะภาษาจีนกวางตุ้ง จีนกลาง และญี่ปุ่น ออกเสียงคำนี้ว่าหมายถึง “ตาย” ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองจีนไม่มีชั้น 4 ชาวญี่ปุ่นบางคนที่เชื่อเรื่องนี้มักจะรู้สึกกังวลเมื่อต้องออกเดินทาง หรือนัดหมายธุรกิจในวันที่ 4

แตกต่างจาก “ลาว” และภาคอีสานไม่คิดอะไรมาก เพราะ “4” แปลว่า “การร่วมเพศ”
ระหว่างปี 1920-1932 เยอรมันเผชิญภัยคุกคามเศรษฐกิจรุนแรง คนตกงานกันทั้งประเทศ ค่าเงินลดฮวบฮาบกลายเป็นแบงก์กงเต๊ก
ผลวิจัยระบุว่า ในห้วงเวลาดังกล่าว คนเยอรมันเชื่อในโชค และลางกันค่อนประเทศ ต่อเมื่อเศรษฐกิจค่อยๆ กระเตื้องขึ้น ความเชื่อดังกล่าวก็ค่อยๆ คลี่คลายลง
สรุปเป็นหลักการได้ว่า คนเราเชื่อถือศรัทธา โชคชะตา และลางสังหรณ์ เพราะ “กลัว” ความเสี่ยง กลัวอันตรายที่มองไม่เห็น และเหนือสิ่งอื่นใดกลัวความไม่แน่นอน

ศาสตราจารย์พิเศษ จำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต ครูบาอาจารย์ของชาวมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผมเองก็เป็นศิษย์ของท่านครั้งเรียนปริญญาตรีที่มหาจุฬาฯ และได้เป็นศิษย์ติดตามข้อคิดข้อเขียนของท่านอีกหลายเรื่อง ทั้งจากปาฐกถา และการอภิปรายวิชาการตามสถาบันต่างๆ
ท่านพร่ำสอนลูกศิษย์เสมอว่า ถ้าอยากมีโชค มีลาภ ดวงดี สุขภาพแข็งแรง จงใช้ชีวิตอยู่ด้วยการฝ่าฝืนความเชื่อ โชคชะตา ลางสังหรณ์ดีร้ายทุกอย่าง โดยใช้ “ตรรกศาสตร์” คือความคิดที่เป็นเหตุ เป็นผล
![]()
อยากชนะยั่งยืน อย่าลืม “คิด” เป็นเหตุ เป็นผล จะได้ไม่ตกเป็น “เหยื่อ” ความงมงาย คนหลอก คนลวง คนฉ้อ คนฉล คนคด คนโกง คนพูดความจริงครึ่งเดียว คนพูดความจริงไม่หมด คนพูดเอาดีใส่ตัว แต่ใส่ร้ายคนอื่น

ทุกวันนี้ เมื่อต้อง คิด พูด และทำโครงการใดๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม ผมก็ใช้หลัก “ตรรกศาสตร์” ของท่านในชีวิตประจำวันเป็นประจำ และสม่ำเสมอ และขอรับรองว่าใช้ได้ผล…จริงครับ
