4 ม
ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ
หนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ
วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555
ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ผมมีภารกิจต้องเดินทางไกลไปยุโรป 5 ประเทศ และตะวันออกกลาง
เริ่มจากสวิส เยอรมัน ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม ฝรั่งเศส จบลงที่ดูไบ
นานหลายปีแล้ว ที่ไม่ได้เดินทางไปยุโรป และเป็นครั้งแรกที่ได้เยือนตะวันออกกลางแบบว่า “ค้างคืน” คงมีเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู่กันฟังหลายเรื่อง
วันนี้ ย่างเข้าช่วงลอยกระทง ผมคิดถึงปรัชญา 4 ม
ไม่กิน ไม่เที่ยว ไม่เล่น ไม่เลือก
ผมได้ “แง่คิด” นี้จากคนขับรถแท็กซี่คนหนึ่ง ระหว่างทางจากลำลูกกาไปมหาวิทยาลัยรังสิต
เขาขยายความให้ผมฟังว่า รับราชการทหารมา ได้สังเกต ได้เห็นชีวิตผู้คนมามาก
เป็นบทเรียนที่อยากเล่าให้ผมฟังว่า “ไม่มีคนจนในหมู่คนขยัน”
แต่คนเราจะขยันอย่างเดียวไม่พอ
จะต้องมีวินัย โดยเฉพาะหลัก 4 ม
ม แรก ไม่กิน เขา อธิบายว่า คนเรา จะมีเงิน มีทองใช้ ตั้งฐานะ ตั้งตัวได้ ต้องไม่กิน ไม่ดื่มเหล้า เสพยาเสพติด เพราะถ้าติดเหล้าเมายา หาได้เท่าไรก็หมด
ม ที่ 2 ไม่เที่ยว อย่า เที่ยวกลางคืน คาราโอเกะ ไปได้เป็นบางครั้ง ผับ เธค แสง สี เสียง นอกจากจะหนวกหู เหม็นบุหรี่ เป็นพิษต่อร่างกายแล้ว ยังทำให้สุขภาพจิตเสีย
ม ที่ 3 ไม่เล่น อย่าเล่นหวย เล่นม้า เล่นบอล เล่นการพนันในบ่อน เพราะบรรดา “เล่น” ทั้งหลาย ทำให้คนสิ้นเนื้อประดาตัวกันมามากมาย
ม ที่ 4 ไม่เลือก ไม่เลือกงาน ไม่เกี่ยงเงิน ขอให้งานเล็กงานใหญ่ เงินมากเงินน้อยไม่เกี่ยง หนักเอา เบาสู้ พร้อมสู้งาน พร้อมทำงานหนัก
นอกจาก 4 ม แล้ว เขายังนำเสนอแนวคิด 4 ร
รู้รถ รู้ถนน รู้คน รู้เวลา
รู้รถ คือ รู้สภาพของรถว่าเหมาะกับแก๊สหรือก๊าซ แต่เขาเลือกเติม “แก๊ส” เพราะเฉลี่ยแล้ววิ่งได้ประมาณกิโลเมตรละ 1 บาทเศษ
รู้ถนน ถนนแบบไหนที่ขับแล้วอ้อม ถนนที่ขับแล้วตรง เพราะจะกำไรหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับถนนเส้นนั้นๆ เป็นสำคัญ
รู้คน คนเราจะประกอบ อาชีพแบบใดก็แล้วแต่ ต้องรู้จักคน เข้าใจถึงความแตกต่างของคนที่เป็นผู้โดยสารหรือลูกค้า บางคนชอบฟังข่าว ชอบฟังเพลง ชอบเรื่องการเมือง
การเรียนรู้อุปนิสัยใจคอของคน การเข้ากับคนง่าย มนุษยสัมพันธ์ดี ทำให้มีชัยเกินกว่าครึ่ง
ประเด็นสุดท้าย คือ รู้เวลา ต้อง คำนวณช่วงเวลาในแต่ละวันให้ได้ว่า ออกรถช่วงเวลาไหนถึงจะเหลือกำไร ออกช่วงเวลาไหน รถติด หรือไม่ติด จะกำไรน้อยหรือมากหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับช่วงเวลา
ผมฟังเรื่องเล่าของคนขับแท็กซี่แล้ว ก็ได้แง่คิดว่า เป็นหลักที่นำไปใช้ได้กับคนที่ทำงานในองค์การอื่นๆ ทั้ง SMEs เจ้าของกิจการ หรือคนทำอาชีพอิสระ
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้ายึดหลัก 4 ม และ 4 ร แล้วนำหลักการนี้ไปปรับใช้
เขียนใส่ข้างฝาตัวโตๆ เอาไว้สอนตนเอง เตือนตนเอง และพนักงานให้สำนึกเสมอถึงหลัก
4 ม และ 4 ร
เป็นความรู้นอกห้องเรียน ที่ห้องเรียน MBA ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกก็ไม่มีสอน
แต่เป็นความรู้ที่ผมเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า ชีวิตทุกท่าน ทุกคนจะพบเส้นทางสู่ชัยชนะ ที่จีรังยั่งยืนถ้าปฏิับัติตาม
หลัก 4 ม และ 4 ร