77. ชนะแบบคนเยอรมัน

ชนะแบบคนเยอรมัน

   ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

วันที่ 3 ธันวาคม 2555

ผมนั่งเขียนบทความนี้ ที่ห้อง 503 ชั้น 5  Intercity Hotel  ติดสถานีรถไฟ Freiburg ประเทศเยอรมันตอนใต้ บนรอยต่อ 3 ประเทศ สวิส-ฝรั่งเศส-เยอรมัน


ในภาพ: Basel University, Basel, Switzerland
1 Dec 2555

ผมเดินทางมาปฏิบัติภารกิจสำคัญ ในอีกบทบาทคือ “นักวิจัยระดับนานาชาติ” หน้าที่การงานสำคัญครั้งนี้คือทำหน้าที่เป็นประธานควบคุมการนำเสนอผลงาน วิชาการของนักวิจัยจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกในแวดวงวิชาการด้านศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จัดโดย IJAS หรือ International Journal of Arts & Sciences

ด้วยบทบาทหน้าที่ในฐานะ “ศาสตราจารย์” ทำงานด้านวิจัย และสอนในระดับปริญญาเอกหลายสถาบันในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะ Deming Business school, W.H. Taft University  ก็เลยทำให้ได้รับเชิญให้เป็นประธานในงานดังกล่าว

ผมเดินทางจากเมืองไทย บินตรงสู่ดูไบ ศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลาง รอต่อเครื่องที่นั่นอีกประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ออกเดินทางจากดูไบสายๆ ของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 และมาถึงสนามบินซูริคในวันเดียวกันเวลาประมาณบ่ายโมงเศษ

พักค้างคืนที่ซูริค 1 คืน จากนั้นก็เดินทางมายังเมืองบาเซิล ด่านสุดท้ายของสวิสก่อนตัดเข้าสู่ไฟร์บวร์ก ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเศษ

วันนี้ อยากนำเสนอ “ชัยชนะแบบเยอรมัน” เป็นอันดับแรก

คนเยอรมัน  ในสายตาผมวันนี้ แตกต่างจากหลายปีก่อนที่ผมเดินทางไปเยือน “เบอร์ลิน” วันนี้คนเยอรมัน เริ่มมีรอยยิ้มมากขึ้น หย่อนระเบียบวินัย คลายกฎเกณฑ์ลงไปจากเดิมมาก

การก้าวสู่ “มหาอำนาจ” ของเยอรมัน เป็นประเด็นน่าสนใจ

จากการเดินทางไปเมืองต่างๆ ในละแวกนี้ เช่นเมือง Alsaic หรือ  Calmar หรือเมืองใกล้เคียงอย่าง Gotterheim รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังก้องโลก Black Forrest  หรือ “ป่าดำ” ผมได้แง่คิดหลายเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

อย่างแรกเลยคือเรื่อง “เวลา” คนเยอรมันจะ “ตรงเวลา” ชัดเจน ซึ่งก็รวมถึงคนสวิส ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน

รถไฟในเยอรมัน คล้ายตารางสายการบิน ตรงเวลาเป๊ะ ใครจะไปไหนมาไหนที่เยอรมัน ต้องรักษาเวลาและตรงเวลา

อย่างที่สองคือ “ต้องเตรียมพร้อม” และ “เตรียมการ” ตลอดเวลา เพราะดินฟ้าอากาศในเยอรมันมีครบครัน เช้าหิมะตก สายแดดร้อนเปรี้ยง บ่ายฝนตก เย็นลมแรง ดินฟ้าอากาศแปรปรวน

เทียบกับคนบ้านเราแล้ว เราไม่ค่อยตรงต่อเวลา ไม่ค่อยเตรียมการ ไม่วางแผนไว้ล่วงหน้า ถ้าใช้แค่  2 หลักการที่ว่า โอกาสชนะก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

อย่างที่ 3  คือ “คอนเนคชัน” วันนี้จะเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกสบายเพราะมี “รถไฟ” เชื่อมต่อสวิส ฝรั่งเศส อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ปราก ลอนดอน ทำเวลาได้ “เร็วกว่าเดิม”

ประเด็นนี้ ผมคิดว่าเมืองไทยเราต้องเตรียมพร้อมเพราะถ้าเรามีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง กับประเทศต่างๆ ในอาเซียน ทั้งจีน พม่า ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย หรือสิงคโปร์แล้ว

ผู้คนจะเดินทางท่องเที่ยว เงินทองจะเดินสะพัด ทำให้เงินหมุนเวียน

ในตอนนี้ ผมขอนำเสนอ  “ชัยชนะแบบเยอรมัน” ไว้เพียงเท่านี้ แล้วผมจหะนำเสนอประเด็นอื่นๆ ในตอนถัดไป

Comments

comments