74. ชัยชนะในเชิงธุรกิจ

ชัยชนะในเชิงธุรกิจ

   ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

คอลัมน์ How to Win หนังสือพิมพ์เชียงใหม่ธุรกิจ

วันศุกร์ที่ ๑๖  พฤศจิกายน  ๒๕๕๕

               ทุกวันนี้ คนหนุ่ม คนสาว ทั้งหญิง ทั้งชาย ผู้เปี่ยมพลัง ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ใจกล้า กล้าได้ กล้าเสีย มุ่งมั่น อดทน ทุ่มเท ทำงานหนัก และรักอาชีพธุรกิจอิสระ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทย

คนเหล่านี้ เลิกคิดเป็น “เจ้าคน นายคน” มาตั้งแต่หลังปี 2540 วันนี้ พวกเขา อยากเป็นแบบ “ตัน ภาสกรนที” อยากสำเร็จแบบ “เถ้าแก่น้อย” อิทธิพัทธ์ เจ้าของ “สาหร่ายเถ้าแก่น้อย” อยากรวยแต่ยังเป็นวัยรุ่น

รวมถึงคน “วัยทำงาน” ที่ทำงานไปสักระยะหนึ่งแล้ว อยากออกมาเป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าของกิจการ อยากรู้วิธีทำ “ธุรกิจ” ว่าทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ

หลายคนขวนขวาย หาความรู้ “เงิน 4 ด้าน” แหล่งที่มาของรายได้ ตั้งแต่ระดับที่ 1 การเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนในฐานะลูกจ้างบริษัทเอกชน ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ  ระดับที่ 2  การประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวแบบ “วิชาชีพ”  ทนายความ แพทย์ วิศวะ เถ้าแก่ ธุรกิจครอบครัว ร้านอาหาร ธุรกิจบริการ

ระดับที่ 3 เจ้าของระบบ / คน / เงิน  เครือข่าย แฟรนไชส์

ระดับที่ 4  สู่จุดสุดยอด เป็นนักลงทุนทั้งใน หุ้น พันธบัตร ดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน

ทุกคนอยากรู้หลายเรื่อง ค้าขายในกลุ่มอาเซียน การบริหารลูกน้องที่เก่งแต่เขี้ยวลากดิน การบริหารลูกค้าที่นับวันมีแต่จะยิ่งเค็ม ยิ่งขี้เหนียว โคตรเขี้ยว และจอมเบี้ยว

ทุกคนอยากรู้เรื่องการเอาตัวรอดในคราวเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ หลายคนอยากรู้ว่าจะทำอย่างไร ถ้าเป็นคนเดียวในกิจการที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

สารพัดคำถามเกี่ยวกับการเป็นใหญ่เป็นโตโดยไม่ต้องมีเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงคำถามของเศรษฐกิจระดับจุลภาค และระดับมหภาค อุตสาหกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ และความผันผวนของค่าเงิน

                ทุกคำถาม สรุปได้ด้วยคำตอบเดียว “ทำอย่างไรจึงจะชนะ” หรือ  How to Win

ในแง่ของการทำธุรกิจ เป็นประเด็นที่ผมให้น้ำหนัก ให้ความสำคัญ เพราะเมื่อกิจการได้รับชัยชนะ พนักงานในบริษัทก็เจริญก้าวหน้าเติบโตไปพร้อมกัน

ตำแหน่งงานเปิดกว้างมากขึ้น และมีโอกาสมากขึ้นสำหรับทุกคน ทุกหนทุกแห่งมีการจ้างงาน  มีเวลาไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง ไปกินอาหาร ไปพักผ่อนอยู่กับครอบครัว มีความหวังจะใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยเงินเก็บเป็นก้อน มีเวลาไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมด้านอื่นๆ

ในทางตรงกันข้าม ถ้าธุรกิจพ่ายแพ้ ทุกคนจะได้รับผลกระทบกันเต็มๆ รู้สึกหวาดหวั่น หวาดกลัว รู้สึกเงินเก็บไม่ปลอดภัย ไม่มีเวลา ไม่มีเงินทองเหลือไปบริจาคหรือทำบุญ มีแต่ความกังวลลึกๆ กลัวจะทำให้ครอบครัวผิดหวัง เมื่อแวดวงธุรกิจมีเงินจ่ายภาษีน้อยลง ประเทศก็พัฒนาเติบโตไปได้ยาก

วิถีสู่ชัยชนะที่สำคัญคือ ประการแรก ต้องมีทีมเวิร์กและเครือข่ายที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง และดีที่สุด ทีมที่ดีที่สุดเท่านั้น ที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ชัยชนะ อย่าเก่งคนเดียว  หาทีมที่ดีและรักษาทีมเอาไว้ให้จงได้

ประการที่ 2  อย่ามัวแต่วิตกกังวล คิดมาก กลัวนั่นเกรงนี่ จนไม่เป็นอันทำ หรือไม่ได้ลงมือทำ

ประการที่ 3 จงลอกเลียน และเรียนรู้ แบ่งปันองค์ความรู้กับคนรอบข้างและสังคมตลอดเวลา

ประการที่ 4 จงคิดบวก พูดบวก กับคนรอบข้าง คนใกล้ตัว และธุรกิจต่างๆ ที่มีโอกาสแปลกใหม่

ประการที่ 5 จงสนุก จงตื่นเต้น สนุกกับธุรกิจ ตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ๆ อย่าซังกะตาย หมดอาลัยตายอยาก

ทั้ง 5 ประการ คือ “แก่น” หรือสาระสำคัญ นำไปสู่ “ชัยชนะในเชิงธุรกิจ” ครับ

 

Comments

comments