3.ชิมแล้วชม ตอนที่ 1

อ่านอย่างเดียว ไม่สนุก เพื่อรสชาติที่ดีกว่า น่าติดตามมากกว่า
กรุณาเปิดอ่าน File PDF คลิกดาวน์โหลดฉบับเต็มได้ที่นี่ 

 

ข้อเขียน “ชิมแล้วชม”

ตอนที่ 1

ร้านมนต์นมสด

 “คุณภาพนำ บริการเร็ว บรรยากาศคึกคัก”

ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

เผยแพร่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๕

ผมมีความประทับใจ มีความรู้สึกดีๆ ต่อร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม และของว่าง รวมถึงของกิน ของอร่อยทั้งหลาย ที่ได้ไปพบ ไปเห็น ไปสัมผัส ไปชิม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ใครมีร้านอาหารอร่อยๆ ที่เห็นว่า “แตกต่าง” ก็แนะนำมาได้ที่ druthit@druthit.com จะได้ไปชิมแล้วชม นำมาเล่าสู่กันฟัง

แถวเสาชิงช้า มีร้านอร่อยชวนชิมแล้วชมอยู่หลายเจ้า จะไล่เรียงไปทีละร้าน

ขอเริ่มต้นที่ “ร้านมนต์นมสด” แล้วจะมาว่าต่อด้วยร้านอื่นๆ

ความจริง ในละแวกนี้ มีอาหารและของกินอร่อยอยู่หลายร้าน

“ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดข้างวัดเทพธิดาราม” “ร้านครัวอัปสร”  “ร้านอาหารเมธาวลัย ศรแดง”  “ร้านผัดไทยทิพย์สมัย” “ร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้าชิ้งกี่” “ และอื่นๆ อีกมากมาย

บังเอิญว่า ร้าน “มนต์นมสด” นี้ ก็เป็นร้านที่ผมเองก็ชิมมานาน จำได้ว่าตั้งแต่เรียน TOEFL GMAT GRE Advanced Vocabulary กับสถาบัน “อาจารย์สงวน”

ใครที่จะไปเรียน USA สมัยก่อนแล้วไม่เคยเรียนกวดวิชาที่นี่ ถือว่า “ไม่มีพวก” ครับ

ผมเอง ได้พบปะเพื่อนพ้องมากมาย จากหลายมหาวิทยาลัย ทั้งจากจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าฯ และสถาบันอื่นๆ

เป็นแหล่งรวมคนที่เตรียมตัวจะไปเรียนต่อ MBA ที่ USA เมื่อประมาณปี 2537-2540

นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีเศษ

พอดีเปิดอ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่งเขียนโดยคุณธนวัฒน์ เจริญรุ่งสกล

ท่านผู้นี้ได้นำเสนอ “ความประทับใจ” ที่มีต่อร้านนม+ขนมปังไว้น่าสนใจ

เห็นว่าเล่าเรื่องแล้ว “เห็นภาพ” ก็เลยนำเสนอต่อ เสร็จแล้วทดลองไปชิมกันดูว่าเป็นดังว่าหรือไม่?

“ความรู้ประทับใจจากการไปทานร้านนม+ขนมปัง ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันผ่านมาไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยๆ ร้าน มีร้านนึงที่จะอยู่ในความทรงจำของผมไม่รู้ลืมก็คือร้าน”มนต์ นมสด” ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่ผมรู้ว่าจะได้ไปที่นี่ผมจะ รู้สึกมีความสุขมาก เพราะคิดว่าจะได้ทานขนมปังอันแสนนุ่มอร่อยนมรสชาติกลมกล่อม ผสมกับบรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูทันสมัย…”

ผมก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน บรรยากาศที่นี่ เข้าไปนั่งแล้ว “สุขกาย สบายใจ ผ่อนคลาย”

เหมือนนั่งเล่นที่ “ห้องอาหารโรงแรมสวนดุสิตเพลส” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

ที่นั่นก็เป็นบรรยากาศ “ประทับใจ” อาหารจานเดียว จานเด็ด หลายอย่าง อร่อย ล้วนคัดสรร “ผัดไทย” “อาหารไทยสไตล์ชาววัง” “ขนม” และอื่นๆ อีกมากมาย

วันหลังจะ “ชวนชิมครัวสวนดุสิต” วันนี้มาฟังคุณธนวัฒน์ ชวนชิมก่อน

“หากใครได้ไปทานคงรู้สึกไม่ต่างจากผมเช่นกัน ร้าน มนต์ นมสด ร้านนี้เปิดมา 42 ปีแล้วนะครับ อยู่ที่ ถ.ดินสอ เจ้าของร้านก็คือ คุณมนต์ วนิศรกุล ร้านนี้เป็นร้านที่ให้บริการแบบ Self service ถือเป็นร้านแรกของเมืองไทยเลยที่เป็นแบบบริการตนเอง เพราะคุณมนต์ได้ไปเห็นไอเดียที่ประเทศออสเตรเลีย ก็เลยนำมาใช้กับธุรกิจของตนบ้าง

… กล้าที่จะแตกต่างเลยรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบันเลย ซึ่งปัจจุบันก็มีลูกๆ มาช่วยดูแลกิจการ ทำให้ร้านนี้มีการปรับเปลี่ยนไป ดูทันสมัยขึ้น แต่รสชาติหาได้เปลี่ยนไปไม่ ยังอร่อยเหมือนเดิม

…แน่นอน ร้านนี้เพิ่งมีการขยับขยายและตกแต่งใหม่ โดยการดีไซน์เป็นฝีมือของ คุณธนากูล ลูกชายของคุณมนต์เอง แนวการตกแต่งจะใช้โทนสีเอิร์ธ โทน เพื่อให้เข้ากับสีน้ำตาลของขนมปังปิ้ง และ ควันกรุ่นๆ ของนมร้อนๆ ที่ลอย มายั่วน้ำลายของเรา เคล็ดลับความอร่อยของร้านนี้อยู่ที่ความสดใหม่ อย่างนมสดเนี่ย ก็สดจากฟาร์มทุกเช้าเลย ทำให้เวลาดื่มจะได้กลิ่นหอมๆ และรสหวานละมุน ซึ่งไม่ได้มีการปรุงแต่งกลิ่นอะไรเลย ถึงจะอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ได้ดื่มนมสดจากฟาร์มได้ด้วย…

…นมสดนี่มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น(แก้วละ 35-50 บาท) หรือจะซื้อเป็นขวดกลับไปทานที่บ้านก็มี ( 2 ขนาดขวดเล็กและขวดใหญ่) และก็ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ อีก ทั้งนมแดง ช็อกโกแลต โกโก้ กาแฟ ชาเย็น ให้เลือกดื่มได้ตามความต้องการ”

รายนี้เล่าเรื่อง “ประทับใจ” ไว้อย่างเดียว ผมจะยังไม่แสดงข้อคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น เรามาฟังอีกรายเล่าต่อ แต่สำหรับรายนี้

คุณวิสิษฐ์ จงจิตเจริญพร วิเคราะห์จริงจัง นำเสนอเป็น “กรณีศึกษา” ได้เลยทีเดียว สมควรนำมาเผยแพร่บอกต่อ จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อไป  ขอขอบคุณคุณวิสิษฐ์ จงจิตเจริญพร ไว้ ณ ที่นี้

“มนต์นมสด” ตำนานความอร่อยของร้านขนมปัง-นมสด

ความเป็นมา

หากกล่าวถึงร้านขนมปัง-นมสด หลายคนคงเคยได้ยินชื่อร้าน “มนต์นมสด” โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ วัยรุ่น เด็กๆ ทุกเพศ ทุกวัย ก็จะคุ้นเคยและรู้จักร้านมนต์นมสดกันเป็นอย่างดี โดยมีคุณมนต์  วนิศรกุล เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านนี้มานานกว่า 50 ปี

คุณมนต์เริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้างโดยมีหน้าที่ชงกาแฟ อยู่ในร้านขายกาแฟที่อยู่หัวมุมศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2507 เป็นต้นมา โดยได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของร้านเป็นอย่างดี และทำงานในร้านกาแฟมายาวนานถึง 15 ปี จนกระทั่งเจ้าของตึกแถวมาขอร้านคืนจากเจ้าของร้าน ร้านกาแฟจึงต้องปิดตัวลง

คุณมนต์และลูกจึงตัดสินใจเปิดร้านขายกาแฟบนรถกระบะ ในบริเวณเดิมที่เคยเป็นลูกจ้างร้านกาแฟ และค่อยๆ เพิ่มสินค้าที่ขายให้มากขึ้น มีขนมปังสังขยา และนมสด แต่มีปัญหาถูกเทศกิจจับหลายครั้งหลายหน จึงมีความคิดว่าควรที่จะหาทำเลเปิดร้านขายแทน

จึงมองหาทำเลเช่าที่และเริ่มเปิดร้านครั้งแรกเมื่อปี 2527 บริเวณริมคลองข้างศาลาว่าการฯ โดยมีรายการอาหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ขนมปังมีหน้าให้เลือกหลายอย่างมากขึ้น สังขยา โรยน้ำตาล ราดนม ราดแยม เป็นต้น ในช่วงแรกๆ กิจการไม่ค่อยราบรื่นนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย จึงดำเนินกิจการในลักษณะแค่พอกินพอใช้ แต่ในเวลาต่อมา เมื่อชื่อเสียงของร้านเริ่มแพร่กระจายไปยังลูกค้ากลุ่มต่างๆ ทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงานในก.ท.ม. เนื่องจากลูกค้ามีการบอกกันปากต่อปาก และพาเพื่อนๆ กลับมารับประทานกันมากขึ้น กิจการจึงเข้าสู่ช่วงที่มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเพียง 7 ปี

แต่ในเวลาต่อมา หลังจากที่กิจการเริ่มเจริญรุ่งเรืองมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมติดปากลูกค้า แล้ว ทางร้านก็ถูกเจ้าของห้องเช่าขอคืนที่ จึงทำให้ต้องมองหาทำเลในการเปิดร้านใหม่อีกครั้ง และในที่สุด คุณมนต์ก็สามารถมีร้านเป็นของตนเองได้อย่างแท้จริง ด้วยการกู้เงินจากธนาคารมาจำนวน 7 ล้านบาท เพื่อเซ้งตึกแถว 2 คูหาซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับร้านเดิม และใช้ในการตบแต่งร้านให้มีรูปลักษณ์ใหม่

การปฏิบัติที่ดี

ปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ให้ดีกว่าเดิม

เมื่อจะทำการเปิดร้านของตนเองอย่างจริงจัง จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนา เปลี่ยนแปลง ภาพลักษณ์ของกิจการให้ดีขึ้น จึงทำการตบแต่งร้านให้ดูทันสมัย สะอาดตา หรูหรา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ร้านตึกแถวที่ดูธรรมดาๆ แบบเดิม ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด เมื่อในวันเปิดร้านวันแรกก็มีลูกค้าเบียดเสียดกันเข้ามาในร้านจนแน่นเต็ม ร้านซึ่งเป็นภาพแห่งความประทับใจที่คุณมนต์ไม่เคยลืมมาจวบจนถึงทุกวันนี้

ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้า และควบคุมคุณภาพ

รายการอาหารจะทำการปรับปรุงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดได้เพิ่มรายการอาหารประเภทเบเกอรี่ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนมเพิ่มเข้ามา ในการพัฒนาสินค้าใหม่จะใช้วิธีไปทดลองชิมที่ร้านอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง แล้วนำมาปรับปรุงรสชาติและราคาให้เหมาะสมกับร้าน เพื่อให้สามารถรองรับต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดี สำหรับรายการอาหารที่ขายดีที่สุดในร้านก็ยังคงเป็น นมสด และสังขยา ซึ่งทางร้านมีจำหน่ายและสร้างชื่อเสียงให้กับร้านมาช้านานแล้ว

ทางด้านการผลิต มีการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพอย่างเข้มงวด และสิ่งสำคัญคือทางร้านจะไม่ใส่สารกันบูดในอาหาร โดยอาหารที่จำหน่ายจะต้องผลิตใหม่ๆ สดๆ อยู่เสมอ และเจ้าของร้านจะเข้าไปควบคุมการผลิตในทุกขั้นตอน
เน้นที่คุณภาพ ไม่เน้นที่ปริมาณ

แม้ว่าร้านมนต์นมสด จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยในแต่ละวันจะมีผู้คนทุกเพศ ทุกวัย แวะเวียนเข้ารับประทานในร้านกันอย่างเนืองแน่น แต่คุณมนต์เจ้าของร้านกล่าวว่า ในส่วนของการเปิดสาขาในกรุงเทพนั้น มีแนวคิดว่าต้องการจะเปิดเพียงแต่ 2-3 สาขาเท่านั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้รู้สึกว่าเห็นร้านมนต์นมสดจนเคยชิน แต่ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่าต้องมากินให้ถึงถิ่นจึงจะคุ้มค่า และให้ความรู้สึกประทับใจกับลูกค้าได้ดีกว่า

ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

การขยายกิจการในรูปของแฟรนไชส์นั้น ปัจจุบันทางร้านยังไม่มีนโยบายที่จะเปิดแฟรนไชส์ เนื่องจากยังไม่พร้อมที่จะทำ เพราะต้องอาศัยการดูแลในเรื่องการควบคุมคุณภาพ และรสชาติที่เป็นมาตรฐาน โดยมีเคล็ดลับในการทำธุรกิจว่า จะทำอะไรต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ก้าวแต่ละก้าวเป็นไปอย่างมั่นคง จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นดังธุรกิจหลายแห่ง ที่เร่งขยายตัวจนเกินกำลังของตน จนประสบปัญหาอยู่ในทุกวันนี้

การบริหารบุคลากร

คุณมนต์ได้ใช้ประสบการณ์ที่ทำงานเป็นลูกจ้างมานานกว่า 15 ปี มาประยุกต์ใช้ในการบริหารในลักษณะเป็นแบบครอบครัว สอนและเน้นให้พนักงานทุกคนมีความซื่อสัตย์ รักษาความสะอาด ให้บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ และสนุกกับงานที่ตนเองทำ

ปัจจัยความสำเร็จ

อาจกล่าวได้ว่า การที่ร้านมนต์นมสด สามารถดำเนินกิจการจนประสบความสำเร็จได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากจะเป็นเพราะการคงความอร่อยและคุณภาพการผลิตไว้ได้ ซึ่งไม่ว่าลูกค้าจะมารับประทานกี่ครั้ง ก็ยังคงความอร่อยไว้ได้เหมือนเดิมทุกครั้งแล้วนั้น ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่ง ก็คือ ทางร้านสามารถสร้างชื่อร้านหรือตราสินค้า ให้อยู่ในใจของผู้บริโภคได้สำเร็จ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการสั่งสมชื่อเสียงมายาวนานหลายสิบปี ผนวกกับความขยันอดทน มุมานะ ตั้งใจทำงาน และไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค ของคุณมนต์และครอบครัว ร้านมนต์นมสด จึงยังคงครองตำนานความอร่อยของร้านขนมปัง-นมสด มาได้ทุกวันนี้

ข้อสรุปทางวิชาการ

จากกระแสความนิยมในการบริโภคอาหารประเภทขนมปัง-นมสดที่มีมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายแห่งให้ความสนใจเปิดร้านขึ้นมาเป็นจำนวนมาก กิจการร้านขนมปัง-นมสด จึงแข่งขันกันอย่างรุนแรง และในที่สุดก็มีผู้ที่ล้มหายตายจากลงไปเป็นจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่จะทำให้กิจการสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในธุรกิจ ดังเช่นในกรณีศึกษานี้ ก็คือ

  • ต้องสร้างชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และตราสินค้า ให้สามารถครองใจของผู้บริโภค
  • มีสูตรอาหารเฉพาะตัวที่อร่อยไม่เหมือนใคร
  • มีการควบคุมคุณภาพการผลิตในทุกๆ ขั้นตอน เพื่อให้มีรสชาติที่คงที่ได้มาตรฐานถูกปากถูกใจลูกค้ามาเป็นเวลาช้านาน
  • มีการปรับปรุงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  • มีการพัฒนารูปแบบของร้านให้ทันสมัย ปรับปรุงอุปกรณ์การผลิต บรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม
  • มีตราสัญลักษณ์ร้านเป็นของตนเอง บรรจุภัณฑ์จะมีตราสัญลักษณ์ร้านติดอยู่ จึงทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย และสามารถสร้างภาพลักษณ์และตราสินค้าได้สำเร็จ
  • สร้างความประทับใจในด้านบริการ โดยสอนให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สะอาด บริการลูกค้าอย่างจริงใจ และสนุกกับงานที่ทำ

กรณีศึกษาที่คุณวิสิษฐ์ จงจิตเจริญพรนำเสนอไว้ ให้แง่คิดสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ทั้งผู้กำลังจะเริ่มต้นและหรือเริ่มต้นดำเนินการแล้วว่ากิจการจะสำเร็จหรือ ล้มเหลวขึ้นอยู่กับ “การปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการตลอดเวลา” ทำต่อเนื่องและจริงจัง กับอีกเรื่องที่ต้องทำควบคู่กับการจัดการคุณภาพคือ “การเปลี่ยนแปลงที่ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภค”

บทเรียนจากร้าน “มนต์นมสด”

ถ้าถามว่าผมประทับใจร้านนี้ในด้านใดมากที่สุด คำตอบคือ “สะดวก รวดเร็ว”

เราต้องยอมรับว่าร้านนี้จัดการรับคำสั่งซื้อสินค้าได้รวดเร็ว ไม่แพ้กับร้านฟาสต์ฟูดระดับโลกอย่าง KFC หรือ McDonald

อีกอย่างหนึ่งที่ประทับใจคือ “บรรจุภัณฑ์” ขนาดและปริมาณที่พอเหมาะพอสมกับการดื่ม รวมถึง “ขนมปัง” หน้าต่างๆ โดยเฉพาะ “หน้าเนยโรยน้ำตาล” “หน้าเนยราดสังขยา” “หน้าเนยราดแยมรสส้ม” แบบในรูป เห็นแล้ว ชิมแล้วก็รู้สึกน้ำลายไหลเกิดอารมณ์อยากกลับมา “ชิมซ้ำ”

เมนูเด็ดที่ผมชอบคือ “ขนมปังทาเนยโรยน้ำตาล” เครื่องดื่มที่ชอบคือ “ชาไทยเย็น” “กาแฟไทยเย็น” “นมสดเย็น” “นมแดงเย็น” กาแฟที่นี่ได้รสชาติที่แตกต่างจากร้านกาแฟ Starbucks เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน “มนต์นมสด” จริงๆ

บรรยากาศในร้านค่ำคืนวันที่ 11 เมษายน 2555 ก็ “คึกคัก” ดังที่เห็นในรูป ยามที่เบียดเสียดแย่งกลุ่มลูกค้าเข้าไปนั่ง “เก้าอี้ดนตรี” ที่นี่แล้ว นึกถึงร้านดังๆ แถว ย่าน Shim Sa Shui แหล่งชอบปิ้งดังเกาะฮ่องกง รู้สึกเหมือนกำลังนั่งชิมในร้านนมสดดังๆ แถบ “นครซิดนีย์” ออสเตรเลีย เป็นดังว่านั่งเล่นในร้านเบเกอรีแห่งหนึ่งแถวมอตต์สตรีทย่านไชน่าทาวน์ มหานครนิวยอร์ก และคลับคล้ายคลับคลาว่าบรรยากาศร้านนี้ช่างเหมือนกับร้านขนมเค้กและเบเกอรี่ แถวไชน่าทาวน์เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ถ้าจะบอกว่าเหมือนนั่งที่ร้านสไตล์แบบนี้แถบไชน่าทาวน์เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็คงไม่พูดเกินจริง เอาอย่างนี้ ให้ลองไปสัมผัสด้วยตนเองดูจะดีกว่า

 

สิ่งหนึ่งที่ไม่ชอบ และรู้สึกอึดอัดคือ “ที่จอดรถ” หายากมาก เจ้าหน้าที่จราจร สน. สำราญราษฎร์ ขยันกวดจับ จอดรถไว้ไม่ระมัดระวังจะถูกล็อกล้อ เป็นข้อพึงสังวรระวังสำหรับ “นักชิม” ขาจร

ถ้าไม่อยากถูกจับ ก็ต้องยอมเสียค่าจอดรถ ซึ่งก็แพงมากลานรับฝากรถจอดรถในย่านนี้มีเรื่อยมาตั้งแต่ซอยวัดราชนัดดาราม จนถึงห้าแยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แถวศาลเจ้าพ่อเสือ หรือริมถนนข้างวัดสุทัศน์ก็พอจอดได้ ต้องเดินเอาหน่อย ถ้าไม่อยากเสียเงินค่ารับฝากรถซึ่งคิดโดยเริ่มต้นที่ ๓๐ บาทต่อชั่วโมง

ถ้าไม่คิดอะไรมากเรื่องที่จอดรถ  ถ้าวันไหนได้แวะมาทำธุระแถวนี้ หรือมาทัวร์ไหว้พระ ๙ วัดย่านนี้ หากตรงกับวันพฤหัสบดีก็อย่าลืมไหว้พระพิฆเนศวร์ขอพรที่โบสถ์พราหมณ์เก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่อยู่ถัดกันไปประมาณ ๑ ป้ายรถเมล์

เดินเล่นแถววัดราชนัดดาราม ชมโลหปราสาทเพลิดเพลิน แวะเยี่ยมสุนทรภู่ กวีเอกระดับโลก ณ วัดเทพธิดาราม ไหว้พระพุทธรูปองค์โต จะได้นั่งเป็นใหญ่เป็นโตกับเขาบ้างที่วัดสุทัศน์ แวะเยี่ยมชมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงทุกตระกูลเผื่อวันหน้าอาจได้ เครื่องราชสายสะพาย ณ วัดราชบพิธ วัดประจำรัชกาลที่ ๕ อย่าพลาดที่จะแวะนมัสการพระพุทธรูปขนาดมหึมาจากสุโขทัยที่วัดมหรรณพาราม ถ้าเกิดปีนี้ตรงกับปีชง ก็อย่าลืมแวะไหว้เจ้าพ่อเสือให้รู้สึกสบายใจ ก่อนจะไปไหนต่อ อย่าลืมแวะดื่มเครื่องดื่มที่ร้านมนต์นมสดให้ชื่นใจ เดี๋ยวนี้ทันสมัยมี “ไอศกรีม” ให้ลิ้มชิมรสด้วย

ดื่มกาแฟไทย/ชาไทยเย็นๆ ๑-๒ แก้ว ขนมปังหอมกรุ่นจากเตาอบอย่างน้อย ๑ คู่ เพียงแค่นี้หนทางสู่ “นฤพาน” ก็อยู่ไม่ไกล

แล้วจะรู้ว่า “นาสิกสุข” สุขเกิดจาก “จมูกดมกลิ่น” และ “ชิวหาสุข” สุขเกิดจาก “ชิวหาพาเพลิน” มีอยู่จริง เป็นเรื่องจริง ทุกผู้ ทุกตน ทุกนาม มีโอกาสลิ้มรสทัดเทียมกัน

จะคิดเห็นว่าเรื่องกินเรื่องดื่มเป็นสุขหรือทุกข์นั้น คำตอบสั้นและกระชับ “มันอยู่ที่ใจ”

ศ. ดร. อุทิส ศิริวรรณ

เขียน

๑๑ เมษายน ๒๕๕๕

 

Comments

comments