25. ทฤษฎีเฮง: ๑ ล้านบาทแรกในชีวิตต้องทำอย่างไร?

ทฤษฎีเฮง : 1 ล้านบาทแรกในชีวิตต้องทำอย่างไร?

คอลัมน์    How to Heng ต้นฉบับ 02 กรกฎาคม 2555

                เพื่อนๆ นักขายครับ ตอนนี้ผมขอนำเสนอผลวิจัยความเฮงเรื่อง  “1 ล้านบาทแรกในชีวิต”

ประชากรและกลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาปริญญาโทหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต SMEs คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน ชลบุรี รุ่น 11 สอบถามเมื่อ 1 กรกฎาคม 2555

จำนวนผู้ตอบคำถามการสนทนาระหว่างกลุ่ม 10 คน เวลาเก็บข้อมูล 13.00-16.00 น.

ผลการวิจัยพบว่า เงิน 1 ล้านบาทก้อนแรกในชีวิต คนที่คิดแล้ว “ทำได้” “ทำสำเร็จ” มีหลายสาเหตุ

บางคน ทำได้สำเร็จจากการ “ขายประกัน” “เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ล่วงหน้า” “โทรศัพท์มือถือ” “ขายตรง” สินค้าบางชนิด เช่น น้ำมันรำข้าว “ขายส่งขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค” “หวยใต้ดิน” “ปล่อยเงินกู้”

ฟังแล้วไม่น่าเชื่อว่า วันนี้ เงินกู้ดอกร้อยละ 10 ต่อเดือน ยังมีคนกู้กันอุ่นหนาฝาคั่ง
ไม่พบตัวเลขมีนัยสำคัญใดๆ บ่งชี้ว่า จะหยิบเงินล้านได้เพราะ “อธิษฐาน” “ขอ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์

คนที่คิดว่าจะได้เงินล้าน ถ้าตั้งเป้า ก็จะได้ ถ้าไม่อยาก ก็ไม่ได้
สรุปเป็นทฤษฎีเงินล้านก้อนแรกได้ว่า ต้องตั้ง “เป้า” โดย “คิด-ฝัน-หวัง-อยาก-ทำ” จึงจะได้

คนจะมีเงินล้านบาทก้อนแรกได้ต้องตั้งเป้า โดยขั้นที่ 1 ต้องคิด ขั้นที่ 2 ต้องฝัน ขั้นที่ 3 ต้อง “หวัง” ขั้นที่ 4 ต้องอยาก และขั้นตอนสุดท้ายต้อง “ทำ” ทุกวิถีทางการคิดแล้ว  “ทำ” เท่านั้น จึงจะมีเงินล้านแรกได้

ทำแล้ว ต้องทำแบบ “เข้าใจ” “รู้เรื่อง” “รู้เขา” “รู้เรา” ถ้าทำแล้ว “ไม่เข้าใจ” “ไม่รู้เรื่อง” ก็ไม่รวย

อยากรวย อย่าอาย อย่ารังเกียจ อย่าเหนียม อย่ากระดาก อย่าเจียมตัว อย่าเจียมใจที่จะมีเงิน 1 ล้าน

อย่าเป็น “อีแอบ” แอบดูเงินในกระเป๋าคนอื่น แล้วอิจฉาเขา คิดฉ้อฉล คิดทรยศ คดโกง หักหลัง

เมื่อถามว่าต้องการเงินคนละเท่าไรในชีวิต? คำตอบที่ได้รับแตกต่างตาม “เป้าหมาย” ที่ตั้งไว้

บางคนขอแค่ 4-5 แสนบาท บางคนต้องการ 2-3 ล้านบาท บางคน 1พันล้านบาท

มีอยู่ 1 รายต้องการมีเงิน 1 พันล้านบาท ผมถามว่าทำไมต้องการมากถึงขนาดนี้
คำตอบว่าบางคนแค่ ป. 4 ยังใช้คนมีกึ๋นเขียนแผนหลอกแบงก์เอาเงินมาทำกิจการได้หลายพันล้าน

แล้วคนที่เรียนสูงถึงระดับปริญญาโท จะคิดทำโครงการใหญ่มูลค่าพันล้านบาทไม่ได้หรือ?

ตรงตามทฤษฎีเฮง ที่ระบุว่า จนหรือรวย ก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน โอกาสมีเงินล้านก็เท่ากัน

จะมีเงินล้านบาทได้ ไม่ใช่เพราะวุฒิการศึกษา แต่จะรักษาเงินล้านที่หามาให้ได้ต้องศึกษาเชิงลึก

 “หลักคิด” “หลักทำ” เพื่อให้เฮงๆ รวยๆ ตลอดไป ผมขอนำเสนอประมาณ 4 หลักใหญ่ที่สำคัญ

หลักความเฮงข้อที่ 1 ไม่ใช่แค่ “คิด” “ฝัน” “จินตนาการ” “ดุลยพินิจ” ที่จะมี “เงินล้าน” แต่ต้องใช้ “หลักฐาน” ข้อมูลต่างๆ เครื่องมือหาเงินล้านบาทต้องทันสมัย ไม่ใช่มีแค่ “แห” “อวน” แต่ต้องมี “เรดาร์” “เนวิเกเตอร์” นำทางระดับ Google Earth ต้องใช้ทฤษฎี “ตะเกียบคู่” ชี้นำทำโครงการชั้น “เซียน” ระดับ “กูรู” เจ้าโปรเจคต์ มีผลงานสำเร็จหลายเรื่อง ฝากผีฝากไข้ได้ ทำงานแล้ว “ได้เงิน” แน่ๆ ไม่เหนื่อยฟรี ไม่พาไป “เจ๊ง เจ็บ จน” โดยเฉพาะคนที่มี Smell of Money” จมูกสัมผัสกลิ่นเงิน มีญาณสัมผัส ปิ๊งแวบว่าโครงการนี้ทำแล้ว “ได้เงินล้านบาท” รับฟังแล้วกลั่นกรอง ประเมิน ลงมือทำแล้วได้เงินแน่นอน ต้องหาคนแบบนี้ไว้รอบตัว เข้าข่าย “คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”

หลักความเฮงข้อที่ 2 จะหยิบเงินล้านบาทได้ หลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานต้องแม่นยำ ต้องค้นหาคัดเลือกสินค้าที่มีน้อยชิ้น แต่กำไรมาก สินค้าที่แตกต่าง คนขายน้อยราย ผูกขาด มีสัมปทานยิ่งดี
หลักความเฮงข้อที่ 3 จะต้องแม่นยำเรื่องการเงิน การบัญชี จะค้าขายกับกิจการใดๆ ต้องขอดู “งบดุล” การเดินบัญชีกับทางกรมพัฒนาธุรกิจ สรรพากร หรือธนาคารที่กิจการนั้นๆ ใช้สินเชื่อ

กิจการที่งบดุลเป็นบวก จ่ายค่าการตลาด หักภาษีตรงเป๊ะ น่าเชื่อถือ น่าค้าขายด้วย ตัวเลขการเงินการบัญชีโปร่งใส อาทิ IRR, NPV, Payback Period, ROE, ROI องค์ความรู้เหล่านี้ ป. 4 คิดไม่ออก ทำไม่ได้ ต้องมีความรู้อีกขั้น คนจะเฮงได้ ตัวเลขต้องแม่นยำ อย่าคิดแบบ “นักการตลาด” ฝันเฟื่อง ต้องคิดแบบ “นักบริหารโครงการ” บริหารจบแล้ว จะเหลือกำไรเท่าไร? จากโครงการนั้นๆ

หลักความเฮงข้อที่ 4 ต้องได้ทีมเวิร์กดี คบคนขี้ฉ้อขี้โกงระวังจะถูกแจ้งความดำเนินคดีชั้นตำรวจ ชั้นอัยการ ชั้นศาล มีเรื่องเป็นคดีแล้ว แม้ไม่ได้เป็นแบบที่ถูกกล่าวหา แต่ก็ทำให้เสียเครดิต เสียชื่อเสียง เสียเงิน เสียเวลา เสียโอกาส ระวังคนฉ้อฉล พูดจริงไม่หมด แวดวงนักขาย ประกันมีมาก ต้องระมัดระวัง ตรวจสอบให้มากๆ ก่อนทำมาหากินกับใคร เช็คประวัติให้ดีๆ จะได้ไม่เสียเวลา

จากการวิจัยพบว่าทุก 60 ล้านคน โอกาสมีเงิน 1 ล้านบาทมีสูงถึงร้อยละ 60

แต่คนที่ตั้งเป้าไว้สูงว่าจะมีเงินเก็บ 1 พันล้านบาท

จากผลวิจัยพบว่าคนที่ทำได้สำเร็จเพียงแค่ .00001% จาก 100%  หรือ 6-7 คน จาก 67 ล้านคน
เพื่อนๆ นักขายครับ การที่จะมีเงินล้านบาทในปริมาณที่พอเหมาะ พอควร พอประมาณ
สมาคมบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต ได้ประมาณการตัวเลขคร่าวๆ ไว้แล้วว่าแต่ละคนต้องเหลือเงินใช้เดือนละ
10,000 บาทx12 เดือนx40 ปี
แปลว่า คนที่จะใช้ชีวิตสบายๆ  หลังเกษียณอายุที่ 60 ปี ตัวเลข 4.8 ล้านบาท ก็พอที่จะอยู่ได้ไม่เป็นภาระใครถึง 100 ปี ดังนั้น คนที่อยากเลิกทำงานก่อน 60 ปี ก็เร่งเก็บเงินสดให้ได้ 4.8 ล้านบาทครับ

Comments

comments