177. วัดโผกวงซาน ไต้หวัน

 

คอลัมน์  How to Win

วัดโผกวงซาน

IMG_7481 (Small)

ศาสตราจารย์  ดร. อุทิส  ศิริวรรณ

Research Chair
Ph.D. Program
Faculty of Business, Charisma University,
Turks and Caicos, UK
www.charismauniversity.org

Research Chair
Doctor of Business Administration (DBA) in Managerial Science
School of Business and Managerial Science, University of Atlanta, Georgia, USA
www.uofa.edu

Director of Asean Research Information Center and 
Director of MBA  & DBA Program,
W. Edwards Deming Business School,
William Howard Taft University, Colorado, USA
www.demingbusinessschool.com

IMG_7412 (Small)

18 ตุลาคม  2557

“โลกในอดีตใช้เวลาเพียงแค่ 30% ในการสร้างบริการที่ยิ่งใหญ่ ส่วนอีก 70% หมดไปกับการโฆษณา
โลกยุคใหม่ใช้เวลา 70% คิดค้นบริการที่ยอดเยี่ยม ส่วนอีก 30%  ใช้การโฆษณา”
Jeft Bezos, Amazon.com

 

ช่วงนี้เป็นช่วงออกพรรษา เรื่องราวดีๆ สิริมงคล อ่านแล้วสบายใจจากพุทธศาสนาในไต้หวัน เป็นเรื่องน่าเขียนถึง
บนภูเขาใหญ่ทอดไกลหลายลูกชานเมืองเกาสง ตอนใต้ประเทศไต้หวัน  เป็นที่ตั้งของวัดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก นามว่า “วัดโผกวงซาน” นิกายมหายาน สายรินไซเซ็น

เน้นการปฏิบัติธรรมเพื่อบำเพ็ญกุศลบารมีช่วยเหลือผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ ไม่จำเป็นต้องบวชก็บรรลุธรรมขั้นสูงได้  และไม่จำเป็นต้องเป็นชาวพุทธ จะเป็นต่างชาติ ต่างศาสนาก็ศึกษาธรรมะได้

 

IMG_7438 (Small)
การที่เปิดกว้างให้เรียนรู้เรื่องราวชาวพุทธได้โดยไม่จำเป็นต้องบวชเป็นพระเป็นปัจจัยสำคัญทำให้พุทธมหายานได้รับความนิยมและแพร่หลายอย่างมาก
ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และไปไกลจนถึงแอฟริกาและอเมริกาใต้ ทั่วทุกมุมโลก
วัดนี้เป็นวัดใหญ่โตมโหฬาร 1 ใน 5  ของโลก ก่อตั้งโดยพระมหาเถระนาม “หลวงพ่อซิงหวิน” มีวัดสาขา 250 แห่งทั่วโลก มีมหาวิทยาลัยเป็นของตัวเอง 4 แห่งในไต้หวันและอเมริกา
มีพิพิธภัณฑ์ 8 แห่ง ห้องสมุดพระพุทธศาสนา 11 แห่ง สำนักพิมพ์ชาวพุทธ โรงพยาบาลเคลื่อนที่ วิทยาลัยสงฆ์ 16  แห่ง โรงเรียนประถม 6 แห่ง โรงเรียนมัธยม 3 แห่ง

 

 

IMG_7589 (Small) IMG_7596 (Small) IMG_7601 (Small)

นอกจากงานด้านการศาสนา ยังได้จัดตั้งกองทุนด้านการศึกษา การเผยแพร่วัฒนธรรมจีน และงานสังคมสงเคราะห์ต่างๆ อีกมากมาย ดังกล่าวมาข้างต้น

ตามประวัติ หลวงพ่อเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ช่วงปฏิวัติใหญ่จีนในปี พ.ศ. 2492 รัฐบาลจีนยุคนั้นสนับสนุนแนวคิดลัทธิมาร์กซิสต์ และออกนโยบายโจมตีพระพุทธศาสนา
ยึดวัดและที่ธรณีสงฆ์เป็นสถานที่ราชการ บีบบังคับกดดันทุกวิถีทางให้พระสงฆ์ลาสิกขาไปทำไร่ทำนา
หลวงพ่อเองยุคนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดโส่วซัน เมืองนานกิง ก็เดือดร้อน จำต้องลี้ภัยการเมือง รวบรวมพระสงฆ์ 70 รูปขึ้นเรือที่เซี่ยงไฮ้ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปสู่เกาะไต้หวันโดยไม่รู้ชะตากรรม
การเดินทางครั้งนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก อยู่ในสภาวะ “รองเท้าขาด บาตรแตก” บิณฑบาตไม่ได้หลายวัน จนมาถึงวัดเหวียนกง เมืองจงลี่ บนเกาะไต้หวัน
กลยุทธ์ที่หลวงพ่อใช้ยามยากคือ “มีเป้าหมายชัดเจน”  “ใช้สติปัญญาขบคิดปัญหา” “รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ายามเผชิญสถานการณ์คับขัน” “ช่วยเหลืองานวัดด้วยความขยันหมั่นเพียร”
กลยุทธ์สำคัญคือ “ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์” ท่านจัดให้มีชมรมสวดมนต์เพื่อให้ชาวบ้านที่ไม่รู้หนังสือเข้าถึงพุทธธรรมได้  จัดตั้งวงดนตรีเยาวชนร้องเพลงสรรเสริญพุทธคุณเป็นคณะแรกในไต้หวัน
จัดตั้งกลุ่มนักเขียนเยาวชนให้มีความรู้แตกฉานในด้านภาษาและวรรณกรรม
ส่งผลให้กลุ่มหนุ่มสาวปัญญาชนเป็นศิษย์ท่านจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
การสร้างวัดที่ใหญ่โตมโหฬาร มูลค่าประมาณแสนล้านบาทเศษ ใช้เงินจำนวนมากมายมหาศาล แน่นอนว่าท่านย่อมเผชิญปัญหาอุปสรรคนานัปประการ แต่ท่านก็ต่อสู้จนสร้างวัด-พิพิธภัณฑ์-โรงเรียน-วิทยาลัย-มหาวิทยาลัยช่วยเหลือและพัฒนาคน พัฒนาสังคมขึ้นมาได้สำเร็จ
คำสอนสู่ความสำเร็จของท่านเน้นเพียง 3 ข้อ
ประการแรก กตัญญูกตเวที ประการต่อมา ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลเคร่งครัด และระวังเวลาจะคิดพูดทำ ประการสุดท้ายยึดมั่นในหลักธรรมะ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรมและผลกรรมที่ตนลงมือทำ ตั้งใจคิดดี-พูดดี-ทำดี
เป็นสัจธรรมชีวิตที่น่าคิดช่วงออกพรรษาว่า นักสู้ นักบุญ นักสร้างบารมี ต้องทนอด และอดทน อยากจะสำเร็จ อยากจะชนะ ต้องอดและทน ต้องเข้มแข็ง และเข้มงวด จึงจะประสบความสำเร็จ

IMG_7582 (Small)

Comments

comments