คอลัมน์ How to Win
กลยุทธ์ความประทับใจ
ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ
15 กรกฎาคม 2557
———–
“กระดูกอยู่ที่ไก่ สายสัมพันธ์อยู่ที่คน : Bone in chicken, relatives in man”
สุภาษิตพม่า
ห้วงเวลาแห่งวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ผมพบว่าตัวเองกำลังอยู่บนเส้นทางย่างกุ้งมุ่งสู่มหานครหงสาวดี กว่า 13 ปี ที่ผมไม่ได้มาเยือนพม่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่ได้ไปเยือนทางอากาศ!
ระยะทาง 80 กิโลเมตร แต่รถวิ่งใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเศษ ทำให้ผมได้แง่คิดและความประทับใจเมืองย่างกุ้งรวมถึงอีกเมืองคือหงสาวดีหรือ ปัจจุบันเรียกว่าพะโคหลายเรื่อง
กลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ “ความประทับใจ” และ “การสร้างความประทับใจ” ผมขอนำเสนอดังนี้
ความประทับใจประการแรก คือ การทำบุญ
ผมมีคำแนะนำสำหรับใครที่คิดและรู้สึกว่าตนเองดวงตก ดวงไม่ดี มีเคราะห์ มีแต่เรื่องแต่ราวว่า ขอให้ท่านยึดหลักง่ายๆ ทาน-ศีล-ภาวนา เบื้องต้นง่ายสุดเลยคือทำบุญใส่บาตรปล่อยนกปล่อยปลาปล่อยเต่า
พอมีงบหน่อยก็เลี้ยงเพลพระสงฆ์สามเณรจะกี่รูปก็แล้วแต่งบที่มี ไปวัดไหนก็ได้ที่ท่านศรัทธา
การไปวัดสมัยนี้ ต้อง “เลือก” วัดที่เชื่อและใช่ เพราะความประทับใจอยู่ที่คนจะไปและวัดที่จะไป ถ้าถูกจริต ถูกอุปนิสัย ก็ไปกันได้ แต่บางวัดไม่ถูกจริต ก็ไม่ต้องไป คนเราสามารถเลือกไปที่เราถูกจริตได้
ถ้าจนถึงขนาดไม่มีงบ ก็อยู่กับบ้านตั้งใจสมาทานรักษาศีล 5 ไม่ให้ขาด ไม่ให้ทะลุ ไม่ให้ด่าง ไม่ให้พร้อย รักษาให้ครบตั้งแต่วินาที-นาที-ชั่วโมง-วัน-สัปดาห์-ปักษ์-เดือน-ปี
ถ้าศีลก็ยังรักษาไม่ได้ สมควรที่จะหาเวลา “ภาวนา” อยู่คนเดียวเงียบๆ ที่ไหนก็ได้ หายใจเข้าก็นึกว่าพุท หายใจออกก็นึกว่าโธ แล้วแผ่เมตตาถึงเจ้ากรรมนายเวรต่างๆ ให้มารับผลบุญ
ทดลองนำไปทำดู จะรู้สึกว่าอารมณ์แจ่มใส และสมองปลอดโปร่ง สบายอก สบายใจเป็นอันมาก
ไปเยือนหงสาวดีครั้งนี้ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสไปทำบุญใหญ่นั่นคือได้ไปเลี้ยง พระสงฆ์และสามเณรทั้งวัดที่กำลังศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดไจ้คะวาย (Kyakhat wine monastery)
ทราบมาว่าในพม่ามีเพียง 3 สำนักเรียนที่มีพระเณรจำวัดจำนวนเกินพันรูป วัดแรกคือวัดนาดาคูหาในย่างกุ้ง วัดที่ 2 คือวัดมหากันทะยงในเมืองมัณฑะเลย์ และวัดไจ้คะวายในเมืองพะโคหรือหงสาวดีในอดีต
ไม่เพียงแต่ผมที่ประทับใจ ในวันที่ไปเยือนพบว่ามีคณะทัวร์คนไทยนับร้อยชีวิตทีเดียวที่ไปรอใส่บาตรข้าว สุกเป็นภาพที่เห็นแล้วรู้สึกประทับใจ เขาก็ประทับใจสิ่งที่ผมทำ ผมก็ประทับใจสิ่งที่พวกเขาทำ
ความประทับใจประการที่ 2 คือ ความสุภาพอ่อนน้อมอ่อนโยน เป็นภาพที่พบเห็นทั่วไปในย่างกุ้งและหงสาวดี โดยเฉพาะตามโรงแรม พนักงานต่างๆ กิริยามารยาทสุภาพเรียบร้อย ดูแลดีมาก เห็นแล้วต้องยอมรับว่า “พุทธศาสนา” ได้มีส่วนขัดเกลาอุปนิสัยของผู้คนโดยเฉพาะคำสอน “การปฏิสันถาร” ต้อนรับผู้มาเยือนและผู้ไปเยือน
ความประทับใจประการที่ 3 คือ ถูกกว่า ให้ บังเอิญว่าผมได้ไปท่องยุโรปและอเมริกามา พอมาเยือนพม่า นอกจากจะรู้ว่าเวลาหมุนช้าลงแล้ว อีกเรื่องที่รู้สึกคือ ซื้ออะไรก็ “ราคาถูก” ยกตัวอย่างสั่งอาหารพม่ามากินเกือบสิบอย่าง นั่งกินกันสามชีวิต หมดเงินแค่ร้อยแปดสิบบาท อย่างนี้เป็นต้น
ทำให้รู้สึกว่า “พม่า” ยังคงเป็นเมืองที่สงบ ร่มเย็น น่าอยู่ น่าไปเยือน
ความประทับใจประการที่ 4 คือ โอกาส พม่าเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ผมค้นพบว่ามีโอกาสทองซ่อนอยู่ทุกอณูของพื้นที่ กิจการต่างๆ ที่สนใจ “อาเซียน” ผมแนะนำให้มองพม่าเป็นประเทศต้นๆ ธุรกิจแฟรนไชส์ ขายตรง กิจการ SMEs กิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ น่าทำ น่าลงทุนทั้งนั้น
ใครที่เล็งและมองหาลู่ทางลงทุนอะไรใหม่ๆ แนะนำให้ไปเยือนพม่า จะพบว่ามีโอกาสและลู่ทางให้ลงทุนเป็นทางเลือกมากมายหลากหลายช่องทาง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เชิญไปดูด้วยตนเองนะครับ