160. ดวงชะตาเหมือนแผนที่ อยากสำเร็จต้องทำเอง

ดวงชะตาเหมือนแผนที่ อยากสำเร็จต้องทำเอง

คอลัมน์    How to Heng

ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ

เพื่อนๆ นักขายครับ ณ วันนี้ ความสนใจของคนที่อยู่ในแวดวงการค้าธุรกิจเดี๋ยวนี้ไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้ง เหมือนในอดีต ซึ่งปัญหาที่วุ่นวายไม่จบสิ้นเพราะหลายองค์การชอบใช้คำทำงาน “ฟรี”  

ใช้ฟรียังไม่ว่า ต้องเผชิญกับสภาวะเค็ม-เหนียว-เขี้ยว-เบี้ยว ไม่ยอมลด-ละ-เลิกนิสัยไม่ดี เมื่อเลิกไม่ได้ ก็ยากที่จะเจริญและเติบโตยั่งยืน อยากจะเจริญยั่งยืน ก็อย่าอัตตาสูงมาก อย่าหลงตัวเอง ก็แค่นั้น

ผมพบว่าห้วงเวลานี้ ก็มีกระแสหรือแนวโน้มใหม่ๆ ในการนำ “พุทธศาสตร์” มาปรับใช้ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม

โดยเฉพาะแนวคิดของคุณศิตชัย จีระธัญญาสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ที่นำเสนอแนวคิด  “แข็งนอก อ่อนใน”  ไว้ น่าสนใจนำมาปรับใช้อย่างยิ่ง

วิถีแห่งโตโยต้าไทยที่สอนกันในองค์กรว่าภายในจิตใจต้องอ่อนน้อม มีคุณธรรม ต้องพยายามแปลงมูลค่าสินทรัพย์ที่หาได้ให้เป็นคุณค่าของชีวิตด้วยการให้ ยิ่งรวยยิ่งให้ ยิ่งได้ก็ยิ่งแบ่งปัน

กิจการของเราก็จะเป็นที่ยอมรับของสังคม ทำให้เรามีความสุข เหมือนกับทุกบริษัทที่ทำกิจกรรม CSR คืนสิ่งดีๆ ให้สู่สังคม

อีกรายคือผู้ที่นำหลัก “พุทธศาสตร์” เอาไปทำแล้วได้ผลสำเร็จ ชื่อว่าอนันต์ อัศวโภคิน นักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของประเทศ “แลนด์แอนด์เฮาส์”

ล่าสุดเขานำแนวคิด “ห้าห้องชีวิตเนรมิตนิสัย: เคล็ดลับความสำเร็จ” ออกเผยแพร่

ห้องนอน: ระเบียบวินัย ล้างใจให้สะอาด

ห้องน้ำ: รักษาเวลา เคารพสิทธิผู้อื่น รักสะอาด ลดทิฐิ

ห้องอาหาร: เคารพผู้อื่น มีมารยาท เสียสละ พอเพียง

ห้องแต่งตัว: พอเพียง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักตัดใจ

ห้องทำงาน: จัดลำดับความสำคัญ รู้จักตัดสินใจ

เรียนเก่งความรู้เยอะ ไม่เท่ากับนิสัยดี

เขาให้ความเห็นไว้สั้นๆ ว่า “โลกวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะคนไม่มีการศึกษานะครับ แต่เป็นเพราะคนนิสัยไม่ดีแล้วมีการศึกษาเยอะ ดูอย่างตอนที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศไม่นาน เขากลายเป็นมหาอำนาจได้เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะคนญี่ปุ่นเป็นคนมีระเบียบวินัย ทำงานเป็นทีมเวิร์ก ทำอะไรทำจริง ละเอียดประณีต ใส่ความรู้อะไรเข้าไปจนไม่นานเขาก็ปรับตัวได้”

กว่าจะเจริญก้าวหน้าได้ จึงต้องฝึกนิสัยอย่างที่เขาบอกกล่าว นั่นคือ รักสะอาด มีระเบียบ สุภาพ ตรงต่อเวลา ฯลฯ นิสัยหลักๆ พวกนี้จะก่อให้เกิดความกตัญญู และอื่นๆ ตามมา ฯลฯ หลังจากนั้นจะใส่ความรู้ต่างๆ เข้าไปมากแค่ไหนก็ได้

“การมีนิสัยที่ดี เหมือนการมีเครื่องจักรที่ดี ก่อนจะเติมความรู้เข้าไป เรามาเริ่มฝึกลูกหลานให้เป็นคนมีนิสัยดี เป็นคนดี รักในการทำดี เพื่อรองรับความรู้ที่เราใส่ให้เขา ผมเชื่อว่า ใครก็ตามถ้ามีนิสัยเหล่านี้ ไปทำงานที่ไหน ใครก็รับ”

อนันต์ มองอย่างคนมีวิสัยทัศน์ ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานว่า

“หากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าคนเรียนเก่งไม่ได้แปลว่า “คนเก่ง” เสมอไป แต่ “คนเก่ง” ที่เป็นเจ้าของกิจการ เขาจะมีนิสัยที่สร้างความเจริญให้เขาและครอบครัวเขา ทำให้เขาประสบความสำเร็จ

“ฝึกสร้างนิสัยดีๆ ทุกวัน ผ่านกิจกรรม 5 ห้องชีวิต ถ้าคุณมีวินัย กตัญญู ขยัน ตรงต่อเวลา ที่เหลือก็ง่าย เพราะพื้นฐานคุณแน่นแล้ว”

หาฉบับเต็มมาอ่านได้จากหนังสือชื่อ “9 สุดยอดคลังสมองประเทศไทย เตรียมคนไทยไปเวทีโลก” ราคา 199 บาท พิมพ์ครั้งแรก เมษายน 2557 ลิขสิทธิ์: มูลนิธิไทยคม

หนังสือเล่มนี้จะให้คำตอบว่า “คนเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องเรียนเก่งหรือไม่? ต้องมีความรู้มากขนาดไหน?”

จากประสบการณ์ตรงของผม เวลาผมจะทำงานอะไร ? กับใคร ? ผมจะสังเกต “นิสัย” ของคนที่เราจะร่วมงาน และเลือกที่จะร่วมงานด้วย เพราะไม่อยากเสียเงิน-เสียเวลา-เสียโอกาส-เสียความรู้สึกที่ดีๆ

ต่อให้กิจการใหญ่แค่ไหน ถ้าเจ้าของนิสัยไม่ดี ไม่รักษาคำพูด ดีแต่คุยเวอร์ ทุกอย่างก็จบ เสียเวลาที่จะเริ่มต้นจงยอมที่จะเป็นศูนย์ในวันนี้ เพราะร่วมงานไป อนาคตก็มีแต่จะติดลบตลอด

อยากเฮง อยากรวย อยากสำเร็จ ต้องเลือกที่จะคิด เลือกที่จะตัดสินใจ เลือกที่จะทำงานร่วมกับคนที่ “นิสัยดี” เพราะคนนิสัยดีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จที่ออกแบบได้ และเป็นไปได้ดังที่ใจเราคิด ฝันและปรารถนา เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่สอดรับกับพันธกิจและวิสัยทัศน์ที่วาง ไว้ สำเร็จได้จริง

เพื่อนๆ นักขายครับ วันนี้หาบริษัท หาองค์กร หาทีมที่ “นิสัยดี” ให้เจอ หลักง่ายๆ คือหลักธรรมที่เขาใช้ ดูว่าเขาหรือเธอ “มีวินัย รักษาคำพูด จ่ายเป็นธรรม ขยัน กตัญญู ตรงเวลา” คบแล้วก็จะเฮงครับ!

Comments

comments