คอลัมน์ How to Win
ผวาแดง!
ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ
30 เมษายน 2557
———–
“เคี่ยวเข็ญคนให้เก่งขึ้น”
สตีฟ จ็อบส์
เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่ผมมีภารกิจเดินทางท่องไปในตะวันออกกลางสหรัฐอเมริกา และคาริบเบียนค่อนข้างยาวนาน
กว่าค่อนชีวิตที่อยู่ เรียน และทำงานในอเมริกา ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวของเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดในช่วงต้นปี 2490
ห้วงเวลานั้น นายโจเซฟ แมคคาร์ธีย์ สว. พรรครีพับลิกัน ออกมาเอาจริงเอาจังกับนโยบาย “ผวาแดง” หรือที่เรียกว่า Red Scare
เขาอ้างว่ารัฐบาลของรูสเวลท์ และทรูแมนเป็น “แดง” ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์มายาวนานกว่า 20 ปี
เขาเที่ยวเดินสายให้สัมภาษณ์ที่นั่นที่นี่ว่ามีคอมมิวนิสต์ 205 คน แฝงตัวทำงานในกระทรวงต่างประเทศ สร้างกระแสให้ฝ่ายชาตินิยมเกลียดชังตื่นตระหนกโกรธแค้นกลุ่มแดง
นายแม็ค โด่งดังข้ามคืนด้วยเรื่องราวที่กุและแต่งขึ้นมาเช่นนี้!
ความจริงมาปรากฏภายหลังว่า วาทกรรมของนายแม็ค ไม่มีหลักฐาน ไม่มีแก่นสาร แต่ชาวอเมริกันกำลังแตกตื่นหวาดผวาแดง พอนายแม็คนักกู่ตะโกนส่งเสียงโห่ฮาคราวเดียว คนนับร้อยล้านคนซึ่งจำนวนไม่น้อยก็เชื่อเอาง่ายๆ
คนเหล่านี้น่าสงสารตรงที่ไม่ใช่เหตุผลแยกแยะ แถมคนจำนวนมากก็ยังชื่นชมว่าเขาเป็นคนรักชาติ
จำเลยที่ตกเป็นเหยื่อของนายแม็ค มีตั้งแต่ข้าราชการในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ครูบาอาจารย์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี นักหนังสือพิมพ์ สื่อมวลชน รวมถึงดาราฮอลีวูดมากมาย
ระหว่างปี 2490-2495 คนอเมริกันถูก FBI ออกหมายเรียกตัวไปให้ปากคำด้วยข้อหาแดงจำนวนมากถึง 3 ล้านคน!
ส่งผลให้นายแม็คได้ดำรงตำแหน่งสำคัญสูงสุดคือได้เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน มีทีมงาน มีวิธีสืบสวนสอบสวนโดยใช้การวาดภาพนำเสนอข้อกล่าวหา และวิธีการอื่นๆ อันชาญฉลาด ทำให้คนดี คนเก่งเป็นอันมาก ตกเป็นเหยื่อ
หลายคนเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกประณาม ถูกก่นด่าว่าเป็นแดง ถูกชิงชัง ถูกไล่ออกจากงาน แม้กระทั่งเสียอนาคต
อยู่กันอย่างหวาดระแวง มองหน้ากันไม่สนิท แตกต่างและแปลกแยก หวาดระแวงกันเองในหมู่พี่น้องและญาติๆ
ทีนี้นายแม็คก็กำเริบเสิบสาน ถึงขั้นกล่าวหา นายพลกองทัพต่างๆ รัฐมนตรี และคณะทำงานกระทรวงต่างๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาล ตอนหลังเปิดศึกกับพรรคเดโมแครตยังไม่พอ ยังลุกขึ้นมาถล่มพรรคที่สังกัดคือรีพับลิกันด้วย
กระทบกระทั่งไปจนถึงประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ก็พลอยถูกกล่าวหาว่าเป็นแดง
ถึงปี 2497 มีการประชุมพิจารณาคดีครั้งใหญ่ จำเลยคือเหล่านายพลและข้าราชการพลเรือนระดับต่างๆ ถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วประเทศเป็นเวลายาวนานถึง 36 วัน
มีการซักถามโต้ตอบกันยืดยาว ผู้คนทั้งประเทศได้เห็นรายละเอียดทุกซอกทุกมุมทุกประเด็นของคำถามและข้อ สงสัย ทำให้มองเห็น เข้าใจ และจับได้ถึงกลวิธีกลอุบายที่ไม่ซื่อของเขา
ในที่สุดนายแม็คและคณะทำงานก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าใครคือแดง? ใครคือคอมมิวนิสต์กันสักคน!
ตอนท้ายของกระบวนการพิจารณา ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบกตั้งคำถามนายแม็คว่า
“ท่านสว. ที่เคารพ ท่านไม่มีความรู้สึกละอายรับผิดชอบชั่วดีเหลืออยู่ในสามัญสำนึกบ้างเลยหรือขอรับ?”
คำถามนี้ทำให้ปวงชนชาวอเมริกาลุกฮือกลับไปยืนฝั่งตรงข้ามกับนายแม็คทันที ในท้ายที่สุด วุฒิสภาได้ลงมติประณามว่านายแม็คเป็นผู้ใช้อำนาจในทางมิชอบ ประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์ต่อขนบประเพณีวุฒิสภา
หลังจากนั้น เขาจะพูดอะไรอีก คนก็ไม่ให้ความสำคัญ ไม่เงี่ยหูฟังกันอีกต่อไป
นายแม็คกลายเป็นคนโดดเดี่ยวเดียวดาย หันหน้าเข้าหาขวดเหล้า ดื่มสุราเมามาย ในที่สุดก็ตายจากโลกไปในปี 2500
เรื่องอเมริกาผวาแดง เป็นเรื่องราวใหญ่โตครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองของอเมริกา หาอ่านฉบับเต็มได้จากหนังสือ “มหาจุฬาฯสง่างาม กลางทะเลแห่งคลื่นลม” โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
บทเรียนแห่งชัยชนะจากเรื่องราวของนายแม็คคือ “อย่าเชื่อโดยฟังตามๆ กันมา” อยากชนะยั่งยืน ต้องใช้วิจารณญาณกลั่นกรองตรวจสอบและพิสูจน์ให้ได้ว่าอะไรคือจริงอะไรคือ ลวง!