109. A Winner never quit

A Winner never quits, and a quitter never wins

ผู้ชนะไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ ส่วนผู้ที่ล้มเลิกความตั้งใจก็ไม่เคยชนะ

ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ

ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศวิจัยอาเซียน และโครงการ MBA & DBA Program

Deming Business School, W.H. Taft University, Colorado, USA

www.demingbusinessschool.com

นายกสมาคมบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต

www.dba.or.th

วันที่ 17 เมษายน 2556

———–

บทเรียนจากอดีตสอนเราว่า “คนชนะ” คือคนที่ไม่ยอมแพ้สู้ยิบตา ส่วนคนแพ้คือคนที่ไม่ยอมต่อสู้!

สงกรานต์ปีนี้ เป็น “โอกาสทอง” ได้ไหว้พระ ทำบุญ เยี่ยมชมวัดต่างๆ รวม 9 แห่งตั้งแต่ฝั่งธนบุรีจนถึงฝั่งพระนคร ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ได้สำรวจร่องรอยความสำเร็จและล้มเหลวของผู้คนในอดีต

เริ่มจากวัดแรกคือวัดอัปสรสวรรค์ อยู่ใกล้วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้ไหว้พระปางฉันสมอที่พระนั่งเกล้าฯ พระราชทานให้เจ้าจอมน้อยสุหรานากงที่โปรดปรานอย่างยิ่ง “นางฟ้านางอัปสรจากสรวงสวรรค์”

พระปางนี้แต่ละปีเปิดให้ไหว้เฉพาะช่วงสงกรานต์ นี่คือ “พระ” ของกษัตริย์ผู้ชนะ

และยังได้ไหว้ “พระพุทธเจ้า 28 พระองค์” ในพระอุโบสถวัดอัปสรสวรรค์ด้วย

วัดนี้เป็นวัดเดียวในโลกที่มีพระพุทธเจ้าจำนวนมากถึง 28 พระองค์เป็นพระประธาน

วัดที่ 2 คือวัดอินทารามวรวิหาร วัดนี้เป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์ เพราะเป็นที่เก็บพระบรมอัฐิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ยังเป็นปริศนาคาใจนักประวัติศาสตร์ว่า “ชนะ” หรือ “แพ้” กันแน่!!!

ได้อ่านเรื่องราว “พระยาพิชัยดาบหัก” ผู้ไม่ยอมเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนายจากจารึกผนังวิหาร

 

วัดที่ 3 คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดของ “ผู้ชนะ” ได้ถวายบังคมพระบรมอัฐิบุรพกษัตริย์ไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 1-8 ได้ไหว้พระแก้วมรกต พ่อแก่ หมอชีวกโกมารภัจ ได้ชมจิตรกรรมฝาผนัง

 

 

วัดที่ 4 ได้ไหว้พระพุทธสิหิงค์ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ วังหน้า ที่แห่งนี้เคยมีวัดชื่อ “วัดพระแก้ววังหน้า” แต่เพราะเป็นวัดของ “ผู้แพ้” ผู้ก่อตั้งเมื่อเป็นกษัตริย์ไม่ได้ วัดก็เลยกลายเป็น “วัดร้าง”

ได้บูชา “เทพนพเคราะห์” สมบัติของรัชกาลที่ 5 ซึ่งปีหนึ่งจะเปิดให้สรงน้ำแค่ 1 ครั้งเท่านั้น


วัดที่ 5 คือวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ได้ถวายบังคมพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระสังฆราช สา เปรียญธรรม 18 ประโยค เปรียญ 9 ประโยคก็ว่าได้ยากแล้ว แต่ 18 ประโยคมีแค่หนึ่งเดียว!

วัดที่ 6 คือ วัดราชบพิธ ได้ถวายบังคมพระบรมอัฐิพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสักการะ “พระนิรันตราย” ได้ชม “จิตรกรรม” และ “ศิลปกรรม” เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่างๆ สวยสดงดงามมาก

วัดที่ 7 คือวัดราชนัดดาราม ได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ โลหปราสาท 1 ใน 2 ของโลก อีกแห่งอยู่ที่ศรีลังกา และยังได้สักการะพระประธานในพระอุโบสถด้วย

เสียดายว่าเดี๋ยวนี้ทางวัดปิดไม่ให้ถวายบังคมรูปหล่อทองพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว ก็เลยอดได้ชม

วัดที่ 8 วัดเทพธิดาราม ได้สักการะหลวงพ่อขาว พระมหากัจจายนะ รวมถึงภิกษุณี 52 พระองค์ ซึ่งมีจำนวนเท่ากับพระโอรสและพระธิดาของรัชกาลที่ 3

วัดนี้เป็นวัดของ “กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ” พระธิดาของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 3 ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบาง ทว่าสิ้นพระชนม์ขณะทรงเยาว์วัย พระชนม์เพียงแค่ 34 ปีเท่านั้น

วัดที่ 9 คือวัดสุทัศนเทพวราราม ได้ไหว้พระศรีศากยมุนีในวิหารหลวง และพระพุทธตรีโลกเชษฐ์ในพระอุโบสถที่ “ยาวที่สุด” ในประเทศไทย ได้เดินดูตุ๊กตาจีน และสัตว์ต่างๆ ที่หล่อด้วยทองเหลือง

ทั้งหลายทั้งปวงที่ไปรู้ไปเห็นเกี่ยวข้องกับ “บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย” ผมนึกถึงเรื่องราว “ความสำเร็จ” และ “ความล้มเหลว” ของแต่ละท่าน เรื่องนั้น เรื่องนี้ พงศาวดารกระซิบ จริงๆเท็จๆ

สรุปเป็นแง่คิดสั้นๆ ประวัติศาสตร์สอนความจริงว่า “ผู้ชนะไม่เคยถอดใจล้มเลิกท้อแท้กลางครัน ส่วนผู้ที่โยนผ้ายอมแพ้ยุติกลางครันตั้งแต่ยังต่อสู้ไม่สำเร็จก็คือผู้ที่ ไม่เคยชนะ”

เขียนเป็นอังกฤษแปะไว้ข้างฝาเป็นแง่คิดว่า

A Winner never quits, and a quitter never wins”

 

 

Comments

comments